ผลการสำรวจของ CNBC Fed Survey ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้และปีหน้า โดยได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเพียง 2.3% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.44% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. หลังจากขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ผลสำรวจคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตต่ำกว่า 2% ในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจคาดการณ์ว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงในปีนี้
ผู้ถูกสำรวจจำนวน 60% คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ 14% คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง
ผู้ถูกสำรวจยังคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 จะดีดตัวสู่ระดับ 2,861 จุดในปีนี้ และ 2,925 จุดในปีหน้า ขณะที่คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะ 10 ปีจะไม่ปรับตัวสูงกว่าระดับ 3% ในปีนี้
ผลสำรวจดังกล่าวสวนทางกับที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงทศวรรษหน้า โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปรับลดอัตราภาษี, การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ทั้งนี้ รายงานประจำปีของสภาที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 3.2% ในปีนี้ และเติบโต 2.8% ในช่วง 1 ทศวรรษข้างหน้า
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ระยะยาวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระดับ 1.9%
นายเควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คือ การที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์จะถูกยกเลิก หากปธน.ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า