"เราคาดว่า การขยายตัวในไตรมาสแรกของปี 2562 จะลดลงสู่ 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวรายไตรมาสต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปี" นายดั๊ก ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของแฟนนี เมกล่าว
แฟนนี เมระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นผลมาจากความระมัดระวังของผู้บริโภค หลังจากสินทรัพย์ทางการเงินของภาคครัวเรือนมีความผันผวนอย่างมากในไตรมาส 4/2561
แฟนนี เมคาดว่า การขยายตัวของ GDP ในปี 2562 อาจลดลงสู่ 2.2% โดยลดลงจาก 3.1% ในปี 2561 ซึ่งเป็นผลจากการที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นด้านการคลัง และมีความซบเซาอย่างต่อเนื่องในด้านการลงทุนทางธุรกิจ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นอกจากนี้ แฟนนี เม ระบุด้วยว่า ยังคงมีการคาดการณ์ความเสี่ยงของช่วงขาลง ซึ่งรวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน
"ขณะที่เราให้น้ำหนักความเสี่ยงด้านขาลงต่อเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง และความไม่แน่นอนของการค้า เราจึงคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะรอจนกว่าจะถึงไตรมาส 4/2562 จึงจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากทำได้" นายดันแคนกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน