ศูนย์การศึกษาเศรษฐกิจสำหรับภาคเอกชนของเม็กซิโก (CEESP) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำของเม็กซิโกเปิดเผยว่า การบรรลุเป้าหมายในการขจัดความยากจนของรัฐบาลเม็กซิโกจะต้องอาศัยการเพิ่มการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน
CEESP ระบุในรายงานประจำสัปดาห์ว่า "ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า การสร้างความแข็งแกร่งให้กับการลงทุนและการจ้างงานที่เติบโตขึ้นนั้น เป็นหนทางอันยั่งยืนที่จะลดความยากจนลงได้ โดยรูปแบบที่พบบ่อยครั้งที่สุดก็คือ ความยากจนจะลดลงอย่างถาวรในกรณีที่เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพเสมอ"
ทั้งนี้ CEESP ได้อ้างอิงข้อมูลตัวเลขจากคณะกรรมาธิการประเมินนโยบายการพัฒนาทางสังคมของเม็กซิโก (Coneval) ซึ่งระบุว่า ตัวเลขของประชากรยากจนระดับปานกลางและระดับสูงในเม็กซิโกปี 2559 อยู่ที่ 44 ล้าน และ 9.4 ล้านราย ตามลำดับ
รายงานของ CEESP ระบุว่า "ประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่อยู่ในภาวะยากจนนั้น กำลังเผชิญปัญหาการเข้าถึงอาหาร ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของตนเอง ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อกำหนดข้อตกลงและกลยุทธ์ รวมไปถึงการกำหนดขอบเขตสำหรับโครงการระดับชาติที่ทำร่วมกัน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจของเม็กซิโกซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลาตินอเมริกานั้น มีการขยายตัว 2.0% ในปี 2561 ขณะที่รัฐบาลของนายอันเดรส มานูเอล โลเปส โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของเม็กซิโกในปีนี้จะขยายตัวในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว