ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในช่วง 2 ปีข้างหน้า
ผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของ NABE ประจำเดือนมี.ค. 2562 บ่งชี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งวัดโดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะชะลอลงสู่ 2.4% ในปี 2562 และปรับตัวลงอีกสู่ระดับ 2.0% ในปี 2563
ส่วนผลสำรวจของ NABE ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจทั้งปี 2561 จะอยู่ที่ 2.9% และของปี 2562 จะอยู่ที่ 2.7%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลสำรวจล่าสุดซึ่งได้จากการสอบถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 55 รายนั้น จัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-7 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายเควิน สวิฟท์ ประธาน NABE เปิดเผยว่า NABE มีความเชื่อมั่นน้อยลงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐนับตั้งแต่ผลสำรวจครั้งก่อน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ 75% คาดว่า มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ช่วงขาลง และผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 6% คาดว่า เศรษฐกิจจะปรับตัวขึ้น
NABE ระบุว่า การที่รัฐบาลสหรัฐดำเนินนโยบายกีดกันการค้าต่อประเทศคู่ค้ารายใหญ่ และ GDP โลกที่มีอัตราการขยายตัวซบเซาลงนั้น เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
นายกรีกอรี ดาโก ประธานด้านการสำรวจของ NABE ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่า ผลกระทบภายนอกจากนโยบายการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า หลังจากสหรัฐดำเนินนโยบายการค้าในช่วงที่ผ่านมา และประเทศอื่นๆได้ทำการตอบโต้นั้น ผู้เชี่ยวชาญ 72% ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2562 โดยผู้เชี่ยวชาญ 58% ปรับลดคาดการณ์ GDP ลง 0.01-0.25% และผู้เชี่ยวชาญ 13% ปรับลดคาดการณ์ GDP ลง 0.25-0.50%
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า โอกาสที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเริ่มขึ้นในปี 2562 นั้น อยู่ที่ประมาณ 20% และความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปลายปี 2563 อยู่ที่ 35%
นายดาโกระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนแปลงท่าทีจากการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกเพียงครั้งเดียวในวัฏจักรนี้ เมื่อเทียบกับการปรับขึ้น 3 ครั้งที่เคยคาดการณ์ไว้ในผลสำรวจเดือนธ.ค.