รัฐบาลอินโดนีเซียขู่ที่จะถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาโลกร้อน หากสหภาพยุโรป (EU) ยังคงเดินหน้าแผนขัดขวางการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่คณะกรรมการยุโรปได้ผ่านกฎหมายที่ระบุว่าน้ำมันปาล์มดิบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืนจนนำไปสู่การยกเว้นสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าวออกจากรายการวัตถุดิบสำหรับเป็นเชื้อเพลิงขนส่งแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยกฎหมายเหล่านี้จะถูกส่งไปยังรัฐสภา EU เพื่อพิจารณาตัดสินใจภายในระยะเวลา 2 เดือนว่า จะบังคับใช้หรือไม่ภายในปี 2563
ลูฮัท บินซาร์ ปันไจทัน รัฐมนตรีฝ่ายประสานงานกิจการทางน้ำของอินโดนีเซีย กล่าวย้ำว่า หากสหรัฐและบราซิลสามารถถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวได้ เราก็จะพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวพันกันกับผลประโยชน์ของชาวอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ รัฐบาลจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ เนื่องจากประชาชนกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศต้องพึ่งพาธุรกิจน้ำมันปาล์ม ซึ่งสร้างงานได้เป็นจำนวนมากและยังช่วยบรรเทาความยากจนในประเทศ
ที่ผ่านมา EU มักจะมองว่า การปลูกปาล์มน้ำมันเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและยังคุกคามต่อที่อยู่อาศัยของสัตว์หรือพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์