รัฐสภาอังกฤษลงมติไม่อนุมัติทางเลือกอื่นๆทั้งหมดเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งรวมถึงทางเลือกที่จะถอนตัวแบบไร้ข้อตกลง (No Deal Brexit) แม้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เสนอว่าจะลาออกจากตำแหน่งหากรัฐสภาอังกฤษสนับสนุนแผน Brexit ของเธอก็ตาม
ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 441 ต่อ 105 เสียง ให้เปลี่ยนช่วงเวลา Brexit เป็นวันที่ 12 เม.ย. หรือ 22 พ.ค.ปีนี้ โดยให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย และให้ยกเลิกกำหนดการ Brexit เดิมที่เคยระบุไว้ว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค.
สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้ทำการอภิปรายทางเลือกทั้งหมด 8 ทางเลือกเมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น จนในที่สุดรัฐสภาได้ลงมติปฏิเสธทุกทางเลือก ซึ่งรวมถึงการออกจากสภาพยุโรป (EU) แบบไร้ข้อตกลง, การยังคงอยู่ในสหภาพศุลกากรของ EU และเงื่อนไขตลาดเดี่ยว
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 25,625.59 จุด ลดลง 32.14 จุด หรือ -0.13% เมื่อคืนนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐลดลงต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ของสหรัฐ
-- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Boao Forum for Asia (BFA) ซึ่งจัดขึ้นที่มณฑลไห่หนานของจีนในวันนี้ว่า สัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ในทิศทางบวก พร้อมระบุว่า แหล่งที่มาสำคัญของอุปสงค์ภายในประเทศ มาจากการลงทุนและการอุปโภคบริโภค
-- เฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศแบนโพสต์ที่มีเนื้อหา "ยกย่อง สนับสนุน และแสดงถึงแนวคิดชาตินิยมผิวขาวและการแบ่งแยก" ทั้งหมดบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
เฟซบุ๊ก ซึ่งได้มีมาตรการบล็อคโพสต์ที่มีเนื้อหาชาตินิยมผิวขาวอยู่แล้ว เปิดเผยว่า มาตรการสั่งแบนเนื้อหาในลักษณะนี้คาดว่าจะมีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เนื่องจาก "แนวคิดเหล่านี้มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับขบวนการสร้างความเกลียดชัง และไม่ควรมีที่ยืนในบริการของเรา"
มาตรการใหม่ของเฟซบุ๊กมีขึ้นหลังเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุมือปืนกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไคร์สเชิร์ชของนิวซีแลนด์ ขณะที่กำลังมีผู้เข้าร่วมทำการละหมาดจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 คน โดยมือปืนคนดังกล่าวเป็นผู้ที่มีแนวคิดชาตินิยมผิวขาว
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 14.6% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 5.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบห้าเดือน จากระดับ 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนม.ค. จะอยู่ที่ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลงอย่างมากในเดือนม.ค. หลังจากที่พุ่งทะยานขึ้นในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการค้ากับจีนที่หยุดชะงัก อันเนื่องมาจากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้จากจีน
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าในเดือนม.ค. ลดลง 2.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ 2.585 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 2.073 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลดลงมาสามเดือนติดต่อกัน
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.2% สู่ระดับ 1.344 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2561 จากระดับ 1.266 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขาดดุลการค้าที่ขยายตัวขึ้น และรายได้ทุติยภูมิ
ตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าว เทียบเท่ากับ 2.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 แต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อปี 2548 ที่ 6.3%
ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ว่าประเทศกำลังสะสมสินทรัพย์หรือหนี้สินกับประเทศอื่นๆ
-- ผลสำรวจของ Recruitment and Employment Confederation (REC) เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของนายจ้างในสหราชอาณาจักรที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ลดลง 8% ในเดือนมี.ค. จากเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าผลสำรวจในเดือนมิ.ย.2559 อยู่ถึง 54%
ผลสำรวจเดือนมี.ค.แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของนายจ้างในการตัดสินใจจ้างงานและลงทุน ลดลง 6% จากเดือนก.พ.
จากข้อมูลของ REC พบว่า 82% ของนายจ้างไม่มีอัตรากำลังบุคลากรส่วนเกินและไม่จำเป็นต้องจากพนักงานเพิ่ม หากความต้องการเพิ่มขึ้น
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 7 เดือน ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของยูโรโซน กำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงเสื้อกั๊กเหลือง
Insee รายงานว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 96 จุดในเดือนมี.ค. จากระดับ 95 จุดในเดือนก.พ. โดยตัวเลขเดือนมี.ค.แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สำนักงานสถิติฯ ระบุว่า ภาคครัวเรือนของฝรั่งเศสมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินส่วนบุคคลและอำนาจในการจับจ่ายใช้สอย
-- สำนักงานศุลกากรจีนจะปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลงในปีนี้ จากเดิมที่ผู้ชำระภาษีจะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 16% ของสินค้านำเข้าจะลดลงเป็น 13% ส่วนผู้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่อยู่ในสัดส่วน 10% จะลดลงเหลือเพียง 9% เพื่อช่วยลดภาระด้านการเงินให้แก่ภาคธุรกิจนำเข้าของประเทศ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2561 เป็นต้นมา อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มถูกปรับลดลงมาจากระดับ 17% และ 11% ลงเหลือ 16% และ 10% ตามลำดับ
ขณะที่อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้าปลีกนำเข้าจากการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบข้ามแดนจะถูกปรับลดลงเช่นกัน เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และจะช่วยลดภาระแก่ผู้บริโภคลงได้ 1.35 พันล้านหยวนในปีนี้
จีนได้ให้คำมั่นว่า จะปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียมในวงกว้างปีนี้ โดยการลดภาระด้านภาษีและประกันสังคมลงนั้น คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 2 ล้านล้านหยวน
-- รัฐบาลอินโดนีเซียขู่ที่จะถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาโลกร้อน หากสหภาพยุโรป (EU) ยังคงเดินหน้าแผนขัดขวางการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่คณะกรรมการยุโรปได้ผ่านกฎหมายที่ระบุว่าน้ำมันปาล์มดิบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืนจนนำไปสู่การยกเว้นสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าวออกจากรายการวัตถุดิบสำหรับเป็นเชื้อเพลิงขนส่งแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยกฎหมายเหล่านี้จะถูกส่งไปยังรัฐสภา EU เพื่อพิจารณาตัดสินใจภายในระยะเวลา 2 เดือนว่า จะบังคับใช้หรือไม่ภายในปี 2563
-- เกิดเหตุกราดยิงในเขตนอร์ทซีแอตเทิล ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเทิลของสหรัฐ ในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองซีแอตเทิลเปิดเผยว่า มีประชาชนถูกยิง 4 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับรถโดยสาร และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองซีแอตเทิลได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้รายหนึ่งหลังจากเกิดเหตุกราดยิงใกล้ถนนนอร์ธอีสต์ 120 และแซนด์ พอยต์ เวย์ นอร์ทอีสต์ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ด้านผู้บัญชาการตำรวจคาร์เมน เบสต์ ระบุว่า มีประชาชนถูกยิง 4 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีกำหนดการเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ราคาบ้านเดือนมี.ค.ของอังกฤษจากเนชั่นไวด์ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของอียู รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561 กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 4/2561 ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ.ของสหรัฐ และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของเยอรมนี
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. รวมถึงอัตราว่างงานเดือนก.พ.ของญี่ปุ่น ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ.และอัตราว่างงานเดือนมี.ค ด้านฝรั่งเศสเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. อังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2561 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และสหรัฐเตรียมเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคล ยอดขายบ้านใหม่ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.