การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในทุกด้าน ขณะที่จีนได้ยื่นข้อเสนอที่ไม่เคยมีขึ้นมาก่อนเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยี โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ คณะผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งของจีนเพื่อทำการเจรจาการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยการเจรจามีขึ้นในวันที่ 28-29 มี.ค. จากนั้นนายหลิว เหอ และคณะ จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์แรกของเดือนเม.ย. เพื่อหารือกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐ
-- รัฐสภาอังกฤษจะทำการลงมติต่อข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้
การลงมติดังกล่าวถือเป็นการลงมติครั้งที่ 3 ต่อข้อตกลง Brexit ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 โดยมีการขยายตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% และต่ำกว่าระดับ 2.6% ซึ่งมีการรายงานในเดือนก.พ.
การชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจากการลดลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาคธุรกิจ รวมทั้งการลดลงของการลงทุนของรัฐบาล และการลงทุนในการสร้างบ้าน
นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังถูกกดดันจากผลกำไรภาคเอกชนที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยทรงตัวในไตรมาส 4 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2559 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.5% ในไตรมาส 3
-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนีดาวโจนส์ซึ่งปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มคืบหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทระยะยาวที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
-- เอสแอนด์พี โกลบอล ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 1.1% จากเดิมที่ระดับ 1.6%
เอสแอนด์พีระบุว่า การปรับลดตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากอุปสงค์ภายนอกที่ซบเซา รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีและอิตาลีในปลายปีที่แล้ว ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่า ทั้งสองประเทศจะมีการขยายตัวต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของยูโรโซนในปีนี้
-- สมาคมผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์อังกฤษ (SMMT) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในอังกฤษดิ่งลงกว่า 15% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการปรับตัวลง 9 เดือนติดต่อกัน
ทั้งนี้ SMMT เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ในอังกฤษร่วงลง 15.3% ในเดือนก.พ. สู่ระดับ 123,203 คัน
นายไมค์ ฮอว์ส ประธานบริหารของ SMMT กล่าวว่า การร่วงลงของการผลิตรถยนต์เป็นเวลา 9 เดือนติดต่อกัน บ่งชี้ว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าต่างประเทศ, การลงทุน และการจ้างงาน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ควรผลิตน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันกำลังสูงเกินไป
"เป็นเรื่องสำคัญมากที่โอเปกจะต้องเพิ่มการผลิตน้ำมัน ขณะที่ตลาดโลกมีความเปราะบาง และราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงเกินไป ขอบคุณ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.7% อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับตัวลงของดัชนีในเดือนก.พ.ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ หลังจากที่ดัชนีได้พุ่งขึ้นเกือบ 5% ในเดือนม.ค.จากการอ่อนตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการจำนอง
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หดตัวลง 3.4% ในเดือนม.ค.
กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุนเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานในเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 2.3% ลดลงจากระดับ 2.5% ในเดือนม.ค.
อังกฤษมีกำหนดรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2561 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) เวลา 16.30 น. ตามเวลาไทย
สหรัฐมีกำหนดรายงานรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.พ. เวลา 19.30 น. จากนั้นยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. เวลา 21.00 น.