นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้า แต่กลับจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศที่นำมาตรการดังกล่าวมาใช้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้อำนวยการ IMF ได้กล่าวในการประชุม "Annual Capital Markets Summit" ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของหอการค้าสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า "เป็นความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะได้รับผลประโยชน์จากการค้าโลก และในระบบการค้านั้นก็มีการบิดเบือนอยู่ด้วยเช่นกัน ระบบการค้าจำเป็นจะต้องได้รับการปฏิรูป แต่การตั้งกำแพงภาษีไม่ใช่คำตอบของปัญหา"
นางลาการ์ดกล่าวว่า IMF ได้ทำการวิเคราะห์ประสบการณ์ของ 180 ประเทศเป็นเวลานานถึง 60 ปี ซึ่งพบว่า การบูรณาการด้านการค้าจะช่วยกระตุ้นการลงทุน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโรงงาน เครื่องจักร และยังช่วยสร้างงานในหลายภาคส่วนอีกด้วย แต่ในทางกลับกัน การตั้งกำแพงภาษีจะสร้างความเสียหายต่อลงทุนและการจ้างงาน"
นางลาการ์ดยังกล่าวด้วยว่า การศึกษาดังกล่าวของ IMF นั้น มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะยิ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนซึ่งมีความอ่อนแออยู่แล้วในขณะนี้
ทั้งนี้ นางลาการ์ดได้อ้างงานวิจัยจาก IMF ว่า หากอัตราภาษีสินค้านำเข้าระหว่างสหรัฐและจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 25% ก็จะฉุดดัชนีมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐลดลง 0.6% และฉุด GDP ของจีนลดลงรุนแรงถึง 1.5%