ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 39 จุด หรือ 0.15% เมื่อคืนนี้ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคืบหน้าด้วยดี โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหุ้นบริษัทผลิตชิพรายใหญ่ที่ต้องพึ่งพารายได้จากจีน ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD)
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้สกัดแรงบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กในระหว่างวัน ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 173,000 ตำแหน่ง
-- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐและจีนกำลังร่างข้อตกลงการค้า หลังนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าและนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้เริ่มเจรจารอบใหม่กับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งหากข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลสำเร็จแล้ว ก็จะนำไปสู่พิธีลงนามระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะให้เวลาจีนถึงปี 2568 ในการเพิ่มการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์จากสหรัฐ เช่น ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์กลุ่มพลังงาน พร้อมเปิดโอกาสให้บริษัทสหรัฐที่ทำธุรกิจในจีนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทได้ 100% โดยหากจีนไม่ปฏิบัติตามข้อผูกมัดดังกล่าวภายในปีที่กำหนดไว้ สหรัฐก็จะใช้มาตรการตอบโต้
-- ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายลง หลังประเทศต่างๆเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ โดย PMI ภาคบริการของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 54.4 ในเดือนมี.ค. พุ่งขึ้นจากระดับ 51.1 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 52.3
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 52.8 ในเดือนก.พ.
-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝายค้านของอังกฤษ เห็นพ้องที่จะจัดการประชุมอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการหารือเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวานนี้
การประชุมดังกล่าวทำให้สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมบางคนไม่พอใจ โดยรัฐมนตรี 2 คนลาออกจากรัฐบาลของนางเมย์ และสมาชิกพรรคหลายคนแสดงความไม่พอใจระหว่างการตอบคำถามของนางเมย์ในสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ
-- คณะอัยการกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเตรียมออกหมายจับนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เป็นครั้งที่ 4 ในข้อหานำเงินกองทุนของบริษัทไปใช้ในทางมิชอบ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะอัยการกำลังดำเนินการสอบสวนนายกอส์นข้อหากระทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ด้วยการนำเงินส่วนหนึ่งจากกองทุนซีอีโอนิสสันมูลค่า 3.5 พันล้านเยน (31 ล้านดอลลาร์) ไปจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นให้กับตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งในประเทศโอมานตั้งแต่ปี 2555 โดยกองทุนดังกล่าวเป็นแหล่งเงินทุนที่นายกอส์นสามารถนำไปใช้ตามดุลพินิจของตนเองในเวลานั้น
-- คณะมนตรียุโรป และรัฐสภายุโรปประกาศเมื่อวานนี้ว่า หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ชาวอังกฤษที่เดินทางมายังประเทศที่เป็นสมาชิกเชงเกน และต้องการพำนักระยะสั้นไม่เกิน 90 วัน สมควรได้รับสิทธิในการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องมีวีซ่า
ในขั้นตอนต่อไป คณะมนตรียุโรป และรัฐสภายุโรปจำเป็นที่จะต้องให้การรับรองข้อเสนอดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
-- ประธานาธิบดีอับเดลาซิส บูเตฟลิกา ประกาศลาออกจากการเป็นผู้นำแอลจีเรียแล้ว หลังกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาประท้วงขับไล่นาน 6 สัปดาห์
อย่างไรก็ดี แกนนำในการชุมนุมยืนยันว่าการประท้วงจะยังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้มีการปลดนักการเมืองในกลุ่ม le pouvoir ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นปกครองเดิมที่ได้ปกครองแอลจีเรียในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งให้มีการปฏิรูปทางการเมืองครั้งใหญ่
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งกวาดล้างการซื้อขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์วันนี้ ขณะที่แสดงความกังวลว่ามูลค่าสินค้าดังกล่าวอาจพุ่งแตะระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งสินค้าราว 20% ในจำนวนดังกล่าวเป็นสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
คำสั่งของปธน.ทรัมป์กำหนดให้กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงยุติธรรม เสนอคำแนะนำภายในเวลา 210 วันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านทางการกำกับดูแล และบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะผลสำรวจของนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.ของเกาหลีใต้ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ.ของเยอรมนี และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.พ.และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ. ขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ฝรั่งเศสเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ. และอังกฤษเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.จากฮาลิแฟกซ์