ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (5 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,424.99 จุด เพิ่มขึ้น 40.36 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,892.74 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด หรือ +0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,938.69 จุด เพิ่มขึ้น 46.91 จุด หรือ +0.59%
-- กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.อยู่ที่ 2.68 ล้านล้านเยน หรือ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่อยู่ในแดนบวกอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 56
-- นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ผ่านทางการประชุมทางไกล ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเจรจาที่กรุงวอชิงตันมีความคืบหน้า แม้ว่าจะยังมีประเด็นที่สำคัญๆ รอการสรุปอยู่ก็ตาม ทางด้านทำเนียบได้ออกแถลงการณ์เมื่อเย็นวันศุกร์ว่า ยังมีงานที่มีความสำคัญรออยู่ ทางรัฐมนตรีช่วยและตัวแทนจะหารือเพื่อหาคำตอบให้กับประเด็นที่ยังค้างคาอยู่นี้
-- รัฐบาลลิเบียเผยเตรียมตอบโต้กองกำลังที่จงรักภักดีต่อพลเอกคาลีฟา ฮัฟตาร์ กองกำลังแห่งกองทัพแห่งชาติลิเบีย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก ภายหลังจากที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 รายจากเหตุปะทะใกล้กับกรุงทริโปลี เมืองหลวงของลิเบียช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยกองทัพของนายคาลีฟ ยังคงพยายามที่จะเข้ามายังกรุงทริโปลีเมื่อวานนี้
-- ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จะประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับอังกฤษ ภายหลังจากที่การถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังไม่ได้ข้อสรุป
-- ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศจัดการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มั่นคง
-- จีนได้เพิ่มสำรองทองคำอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยธนาคารกลางจีนได้เพิ่มสำรองทองคำในเดือนมีนาคมเป็น 60.62 ล้านออนซ์ จากระดับ 60.26 ล้านออนซ์ในเดือนก.พ. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า จีนซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตและใช้ทองคำจำนวนมากได้กลับมาเพิ่มสำรองทองคำอย่างต่อเนื่อง
-- ขณะที่นายปราโบโว สุเบียนโต ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้หาเสียงเมื่อวานนี้โดยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง และวิจารณ์ในประเด็นประสิทธิภาพการทำงานทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้การนำของนายโจโค วิโดโด ก่อนที่การเลือกตั้งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า