World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 10 เมษายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 10, 2019 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 190.44 จุด หรือ 0.72% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) คิดเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.3% จากเดิมที่ระดับ 3.5% โดยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า

-- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ Brexit โดยล่าสุด นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เสร็จสิ้นการหารือกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 วันก่อนที่สหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมสุดยอดในวันพุธนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit) โดยไร้ข้อตกลง

นางเมย์เข้าพบนางแมร์เคิล และจะเข้าพบนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสต่อไป เพื่อผลักดันการเลื่อนกำหนดเส้นตายออกจาก EU เป็นวันที่ 30 มิ.ย. จากเดิมวันที่ 12 เม.ย. โดยตลาดคาดการณ์กันว่า สหภาพยุโรปอาจขยายเวลาดังกล่าวสูงสุดไม่เกิน 1 ปี

-- และสหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุฉันทามติครั้งสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี การวางแผนด้านความร่วมมือในอนาคต และการสนับสนุนระบบพหุภาคี ในขณะที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำจีน-EU ครั้งที่ 21 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวานนี้ โดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เป็นประธานร่วม

ส่วนในด้านการค้าและการลงทุนนั้น จีน และ EU ให้คำมั่นว่าจะอำนวยความสะดวกซึ่งกันและกันมากขึ้น และเพิ่มการเข้าถึงตลาดโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการสร้างความก้าวหน้าในปี 2562 ซึ่งจำเป็นต่อการสรุปข้อตกลงด้านการลงทุนที่ครอบคลุมระหว่างจีน-EU ในปี 2563

-- แหล่งข่าวระบุว่า การเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน โดยล่าสุดทางบริษัทได้รับคำสั่งจองซื้อจากผู้สนใจรวมเป็นวงเงินมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า 10 เท่าของวงเงินหุ้นกู้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ที่บริษัทตั้งใจขาย

การเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของทางบริษัท ซึ่งได้กระตุ้นคำสั่งซื้อจากนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการลงทุนในซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดในโลก

-- สถานการณ์ในลิเบียยังคงตึงเครียด โดยสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 47 ราย และบาดเจ็บ 181 ราย

UN ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการสงบศึกชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่สู้รบ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์สู้รบใกล้กับกรุงทริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ระหว่างกองกำลังของรัฐบาลลิเบีย และกองกำลังที่จงรักภักดีต่อพลเอกคาลีฟา ฮัฟตาร์ ผู้นำกองทัพแห่งชาติลิเบีย (LNA) โดยนายฟาเอซ อัล เซอร์ราจ นายกรัฐมนตรีลิเบีย ได้กล่าวหาว่า พลเอกคาลีฟา พยายามที่จะก่อรัฐประหาร และกองกำลังกบฎจะต้องถูกปราบปราม

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ ระบุว่า สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) คิดเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่องค์การการค้าโลก (WTO) มีคำตัดสินระบุว่า การที่ EU ให้เงินอุดหนุนแอร์บัส ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐ

"WTO พบว่าการที่ EU ให้เงินอุดหนุนแอร์บัส ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐ และขณะนี้สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจาก EU คิดเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งที่ผ่านมา EU ได้เอาเปรียบทางการค้าต่อสหรัฐเป็นเวลาหลายปี แต่ EU จะต้องยุติการกระทำดังกล่าวในไม่ช้า" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

-- เจ้าหน้าที่นิวยอร์กซิตี้ประกาศภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคหัด และออกคำสั่งให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรค ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ร่วงลง 538,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.1 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 101.8 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 101.7 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมี.ค.

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย เวลา 18.45 น. ตามเวลาไทย

สหรัฐมีกำหนดรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. เวลา 19.30 น. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ. เวลา 21.00 น. จากนั้นสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เวลา 21.30 น.

และที่ถูกจับตามากที่สุด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. เวลา 01.00 น. (เช้าวันที่ 11 เม.ย.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ