กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย-แปซิฟิกยังคงมีเสถียรภาพ แต่ความเสี่ยงในช่วงขาลงได้เพิ่มขึ้น โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการค้า, ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น และภาวะผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก
นายชางยอง รี ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของ IMF กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าจะเป็นภัยคุกคามครั้งใหม่ต่อการขยายตัวของเอเชีย
ทั้งนี้ IMF คาดว่าเอเชียจะมีการขยายตัว 5.4% ในปีนี้ และปีหน้า โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่เอเชียมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
IMF ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ สู่ระดับ 6.3% จากระดับ 6.2% ก่อนหน้านี้ โดยได้รับผลบวกจากความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการใช้นโยบายการคลังเชิงขยายที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายรีระบุว่า ประเทศในเอเชียจะต้องใช้นโยบายที่รอบคอบ, ระมัดระวัง และมีความยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
"นโยบายเศรษฐกิจมหภาคควรจะเน้นในด้านการรักษาการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ, อย่างยั่งยืน และยืดหยุ่น" นายรีกล่าว พร้อมกับเสริมว่า เอเชียจะต้องมีการปฏิรูปแรงงาน และตลาด, เพิ่มการใช้จ่ายทางด้านสังคมเพื่อแก้ปัญหาควาไม่เท่าเทียวกันที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งใช้ความพยายามในการเปิดกว้างเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อการค้า ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากนโยบายกีดกันทางการค้าทั่วโลก