ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงหลังจากบริษัท 3M และ ยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเผยตัวเลขการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของชาวอเมริกันที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 19 เดือน
-- ตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสแรกของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัว 2.1%
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า GDP สหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 2.2-3.4% ในไตรมาสแรก
-- นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ วัย 76 ปี ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งปี 2563
ขณะนี้มีผู้สมัครอย่างน้อย 20 คนที่จะแย่งชิงกันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการต่อสู้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
-- บริษัท 3M เปิดเผยตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาสแรก ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่า มีรายได้ที่ระดับ 7.863 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 8.025 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรที่ระดับ 2.23 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.49 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ และประกาศแผนปลดพนักงานทั่วโลกจำนวน 2,000 คน
-- บริษัทยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศที่หนาวจัดในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ UPS เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 1.39 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.41 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 1.716 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.778 หมื่นล้านดอลลาร์
-- การเจรจาควบรวมกิจการระหว่างดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารคู่แข่ง ได้ยุติลงในวันนี้ โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แม้ว่าการเจรจาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งต้องการผลักดันให้ภาคธนาคารมีความแข็งแกร่ง
-- สกุลเงินลีราของตุรกีทรุดตัวลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ หลังจากที่ธนาคารกลางตุรกีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ พร้อมกับตัดข้อความในแถลงการณ์ที่ระบุว่าทางธนาคารกลางจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากมีความจำเป็น
-- กระทรวงสาธารณสุขของศรีลังกา แถลงว่า เหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตาย 7 ครั้งต่อโบสถ์คริสต์ 3 แห่ง และโรงแรม 4 แห่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 253 ราย มิใช่ 359 รายที่มีการรายงานก่อนหน้านี้
กระทรวงระบุว่า ตัวเลขที่คลาดเคลื่อนดังกล่าว เกิดจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้มีชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์กระจัดกระจายจำนวนมาก จนทำให้มีการคำนวณผิดพลาด
-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 0.9%
ทั้งนี้ เมื่อปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ดัชนีผลผลิตในโรงงานและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 101.9 เมื่อเทียบกับฐาน 100 ในปี 2558 หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ.
สำหรับดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.6% แตะที่ 101.6 ขณะที่ดัชนีสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.6% แตะที่ 104.0
สำหรับแนวโน้มการผลิตภาคอุตสาหกรรมในวันข้างหน้านั้น ผลสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้ผลิตซึ่งจัดทำโดยกระทรวงฯระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะดีดตัวขึ้น 2.7% ในเดือนเม.ย. และขยายตัวขึ้น 3.6% ในเดือนพ.ค.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 37,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 หลังจากร่วงลงแตะระดับ 193,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนก.พ. โดยการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมี.ค. ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของคำสั่งซื้อในภาคขนส่ง
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย โดยตัวเลขที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้แก่ตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ซึ่งมีการขยายตัวเพียง 2.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% และต่ำกว่าระดับ 2.6% ซึ่งมีการรายงานในเดือนก.พ.