นายพอล สเคอราห์ ซีอีโอของบริษัท เวอร์จิ้น ออสเตรเลีย แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลียในวันนี้ว่า เวอร์จิ้น ออสเตรเลีย ได้ปรับลดคำสั่งซื้อ และเลื่อนการรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 จำนวน 38 ลำออกไป
เวอร์จิ้น ออสเตรเลีย จะรับมอบเครื่องบินดังกล่าวเพียง 23 ลำ และเลื่อนวันส่งมอบจากเดือนพ.ย.ปีนี้ ไปเป็นเดือนก.พ.ปี 2568 หลังจากที่มีการตรวจสอบพบว่า เครื่องบินดังกล่าวมีข้อบกพร่องด้านซอฟท์แวร์ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบิน 2 แห่งประสบอุบัติเหตุตกในช่วงที่ผ่านมา
นายสเคอราห์ กล่าวว่า "ความปลอดภัยยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรกสำหรับเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย"
"ตามที่เราได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ เราจะไม่เปิดตัวเครื่องบินใหม่ๆ ในฝูงบิน นอกเสียจากว่า เราจะพอใจกับความปลอดภัยอย่างเต็มที่"
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เมื่อเที่ยวบินของสายการบินไลออน แอร์ ของอินโดนีเซียตกลงในทะเลชวา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิต 189 คน
ในเดือนมี.ค. 2562 เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์สในแอฟริกา ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเมืองไนโรบีของเคนยาได้ประสบอุบัติเหตุตก หลังนำเครื่องขึ้นไม่นาน ซึ่งส่งผลให้ผู้โดยสารทั้งหมด 149 คน และลูกเรือ 8 คนเสียชีวิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลายประเทศได้ยุติการให้บริการของเครื่องบินดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญการบินทั่วโลกวิตกว่า ระบบควบคุมการบิน Maneuvering Characteristics Augmentation System (MCAS) อาจมีความบกพร่อง
แม้เวอร์จิ้น ออสเตรเลีย ได้ตัดสินใจที่จะลดคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 737 MAX 8 แต่ทางสายการบินก็ได้ตกลงที่จะเพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX 10 ทดแทน