เหล่าผู้บริหารภาคการเงินจากเอเชียได้มาร่วมประชุมกันที่ฟิจิ เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเป็นผลพวงจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
การหารือระหว่างรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มุ่งเน้นไปที่การยกระดับความร่วมมือในช่วงวิกฤตทางการเงิน ซึ่งรวมถึงการขยายขอบเขตความร่วมมือด้านข้อตกลงการสว็อปค่าเงินระหว่างประเทศ
และเพื่อป้องกันให้ไม่เหตุการณ์อย่างวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เกิดขึ้นซ้ำรอย ประเทศต่าง ๆ จึงร่วมกันจัดตั้ง "มาตรการริเริ่มเชียงใหม่" ในปี 2543 ซึ่งเป็นความตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในระดับพหุภาคี เพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในกรณีที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องระยะสั้น ผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินสกุลดอลลาร์กับสกุลเงินท้องถิ่น
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกวางแผนที่จะเพิ่มสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นและสกุลเงินหยวนของจีนเข้าสู่กลไกความปลอดภัยทางการเงินมูลค่า 2.4 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์มากเกินไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับสกุลเงินเยนและหยวนให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างอิทธิพลของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นในภูมิภาค แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสหรัฐจะยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวหรือไม่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องกันที่จะยกระดับความร่วมมือด้านนโยบายกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อรับมือกับภาวะวิกฤต
ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ชาติ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม