สกุลเงินลีราของตุรกีทรุดตัวลงแตะ 6.24 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลในตลาด หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของตุรกีประกาศจัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งใหม่ในนครอิสตันบูล ตามความต้องการของพรรคความยุติธรรมและการพัฒนา (AKP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของตุรกี ซึ่งได้อ้างว่า มีการทุจริตในการเลือกตั้งดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ลีราฟื้นตัวขึ้นบางส่วน หลังจากที่ธนาคารกลางตุรกีประกาศว่า ทางธนาคารกลางได้ยกเลิกการประมูลอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 สัปดาห์ ส่งผลทำให้มีเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่ระบบธนาคาร และช่วยให้ลีราแข็งค่าขึ้น หลังร่วงลง 50% แล้วในรอบ 1 ปี
ธนาคารกลางตุรกีได้ระงับการประมูลอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 สัปดาห์อย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งนักวิเคราะห์พิจารณาว่าเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทางอ้อม เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น 1.50% โดยที่ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอย่างเป็นทางการ
ธนาคารกลางตุรกีระบุในแถลงการณ์ว่า "เมื่อพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ในตลาดการเงินแล้ว ธนาคารได้ตัดสินใจที่จะระงับการประมูลอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 สัปดาห์เป็นระยะเวลาหนึ่ง"
"มีความวิตกเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ความผันผวนในสัปดาห์นี้เกิดจากความไม่แน่นอนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งในตุรกี" ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว โดยคาดว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในอีกไม่อีกวันข้างหน้านี้
เขากล่าวเสริมว่า "บรรดานักลงทุนวิตกว่า การตัดสินใจที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ในนครอิสตันบูลในวันที่ 23 มิ.ย. จะเพิ่มความไม่แน่นอนเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนเกี่ยวกับแผนการของตุรกีที่จะปรับสมดุล และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ"
เศรษฐกิจตุรกีทรุดตัวลงสู่ภาวะถดถอยในปลายปี 2561 ซึ่งเป็นภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง หลังจากค่าเงินลีราร่วงลงในช่วงฤดูร้อน โดยเงินลีราร่วงลงแล้ว 40% นับตั้งแต่นั้น แม้รัฐบาลตุรกีดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องค่าเงินลีราแล้วก็ตาม
ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและสหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต ได้ย่ำแย่ลง เนื่องจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของตุรกีกับรัสเซียเกี่ยวกับการซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 ซึ่งได้เพิ่มความตึงเครียดให้กับตุรกี
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสกุลเงินลีราอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ 25.23% เมื่อวานนี้ ขณะที่ดัชนี BIST100 ปิดร่วง 1.76% โดยร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้วนับตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้งของตุรกีประกาศจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในนครอิสตันบูล
ตราสารหนี้ credit default swaps (CDS) หรือต้นทุนในการประกันความเสี่ยงตราสารหนี้ของตุรกี พุ่งขึ้น 0.11% ในวันเดียว แตะระดับ 4.83% ซึ่งเป็นระดับก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นของตุรกีเมื่อวันที่ 31 มี.ค.
หลังจากที่มีความขัดแย้งมานานหลายสัปดาห์ และพรรคความยุติธรรมและการพัฒนา (AKP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของประธานาธิบดีเรเซฟ เตย์ยิปของตุรกีได้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่นั้น สภาเลือกตั้งสูงสุด (YSK) ของตุรกีได้ตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ให้จัดการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอิสตันบูลใหม่อีกครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน
พรรคฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งก่อนหน้านี้อย่างเฉียดฉิวเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีในนครอิสตันบูลซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของตุรกี โดยมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจตุรกี
ขณะที่ตุรกีเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก, เงินเฟ้อ และการว่างงานที่ระดับสูงนั้น ความตึงเครียดครั้งใหม่ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งในนครอิสตันบูล ก็จะเป็นปัจจัยลบเพิ่มขึ้นสำหรับตุรกี
อย่างไรก็ตาม การเงินสาธารณะยังคงค่อนข้างแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจของตุรกีมีขนาดใหญ่และหลากหลาย ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวก อย่างไรก็ตาม ความต้องการระดมทุนจากต่างประเทศของตุรกีก็มีความสำคัญ ทำให้ตุรกีมีความผันผวนต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และการจัดเลือกตั้งใหม่จะทำให้การดำเนินการตามแผนปฏิรูปล่าช้าออกไป
เงินลีราที่อ่อนค่าลงทำให้การชำระหนี้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ขณะที่ผู้ปล่อยกู้เผชิญความยากลำบากอยู่แล้วกับการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ การเลือกตั้งใหม่จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การเงินสาธารณะของตุรกีเปราะบางมากขึ้น และเป็นความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค