นายบัมบัง บรอดโจเนโกโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนโยบายและแผนแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียมีความวิตกเกี่ยวกับการตกเป็นเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการดำเนินมาตรการปกป้องการค้าของสหรัฐ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงขยายตัว
นายบรอดโจเนโกโรระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าที่ระดับสูงของอินโดนีเซียกับสหรัฐนั้น อาจจะทำให้คณะบริหารของปธน.ทรัมป์หันมาพิจารณาดำเนินมาตรการด้านการค้ากับอินโดนีเซียต่อไป แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะเป็นประโยชน์ต่ออินโดนีเซียก็ตาม
นายบรอดโจเนโกโรกล่าวว่า ความขัดแย้งที่ยืดเยื้ออาจถ่วงยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัด กระแสเงินต่างชาติไหลเข้า และสกุลเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซีย
นายบรอดโจเนโกโรระบุว่า อินโดนีเซียและจีนมีความคล้ายคลึงกัน ต่างกันก็แค่ขนาด โดยทั้งสองประเทศต่างก็ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า ดังนั้นคำถามในตอนนี้ก็คือ เราจะเข้าถึงสหรัฐอย่างไรเพื่อที่อินโดนีเซียจะได้ไม่ตกเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดของสหรัฐในการปกป้องการค้า และเราจะหาประโยชน์อย่างไรกับแนวโน้มที่การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐจะลดลง
ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในสัปดาห์นี้ หลังสหรัฐและจีนประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้กันสำหรับสินค้าหลายร้อยรายการ ซึ่งได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มผลกระทบที่ขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้สั่งให้ทำการตรวจสอบอินโดนีเซียเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมในด้านความสัมพันธ์ทางการค้า โดยในขณะนี้สหรัฐกำลังทบทวนสิทธิของอินโดนีเซียในโครงการการค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษของสหรัฐ ซึ่งในปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์