กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามธุรกิจสหรัฐร่วมงานกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เป็นการชั่วคราว โดยอนุญาตให้มีการอัพเดทซอฟท์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานโทรศัพท์ของหัวเว่ยได้ โดยการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 ส.ค.นี้
การประกาศยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าวเป็นการชั่วคราวนั้น ทำให้กูเกิลยังคงสามารถร่วมงานกับหัวเว่ยได้ต่อไป และหัวเว่ยก็จะสามารถใช้ระบบแอนดรอยด์ได้เหมือนเดิมจนถึงวันที่ 19 ส.ค.
นอกจากนี้ การยกเลิกคำสั่งแบนชั่วคราวจะช่วยให้หัวเว่ยมีเวลาในการเตรียมพร้อมออกโทรศัพท์รุ่นใหม่ และพัฒนาระบบ Android Q อัพเดทสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นปัจจุบัน
-- นายจาง หมิง เอกอัคราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป (EU) เตือนว่า รัฐบาลจีนอาจจะดำเนินการตอบโต้สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน
นายจางได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวานนี้ว่า การกระทำดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ถือเป็นความผิดพลาด และอาจจะถูกจีนใช้มาตรการตอบโต้ พร้อมระบุว่า สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีนได้รับความเสียหาย ซึ่งรัฐบาลจีนคงจะไม่นิ่งเฉยในเรื่องนี้
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า หนี้สินในระดับสูงของภาคเอกชนเป็นประเด็นที่ควรจับตาในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม นายพาวเวลกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าหนี้สินดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของสหรัฐ
นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมตลาดการเงินซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแอตแลนตา ในช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Mapping the Financial Frontier: What does the next decade hold?"
-- บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศแผนปรับลดพนักงานลงประมาณ 10% ทั่วโลก หรือประมาณ 7,000 ตำแหน่งภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับลดต้นทุนตามแผนปรับโครงสร้างของบริษัท
นายจิม แฮกเก็ตต์ ประธานบริหารของฟอร์ด เปิดเผยว่า ในแผนปรับลดพนักงานครั้งนี้ พนักงานระดับผู้จัดการขั้นสูงจะถูกเลิกจ้างเกือบ 20% ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อลดความมีพิธีรีตองและเร่งการตัดสินใจให้เร็วขึ้นในยุคสมัยนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศแผนปลดพนักงานมากกว่า 5,000 ตำแหน่งในเยอรมนี เพื่อปรับลดค่าใช้จ่าย และทำให้บริษัทกลับมามีกำไรในยุโรป
-- บริษัทบอนด์ แคปิตอล ของนางแมรี มีเคอร์ นักลงทุนสหรัฐ และบริษัทเจเนอรัล แคตาลิสต์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของสหรัฐได้ร่วมลงทุนมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ในบริษัทแคนวา ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านแพล็ตฟอร์มการออกแบบออนไลน์ของออสเตรเลีย มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์
-- สำนักข่าวทาสนิมรายงานว่า อิหร่านได้เพิ่มกำลังการผลิตยูเรเนียมเป็น 4 เท่า โดยอิหร่านไม่ได้ผลิตยูเรเนียมเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปี 2558 เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านทำการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ แต่การเคลื่อนไหวล่าสุดดังกล่าวจะเพิ่มความตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย
-- นายลู่ กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบสินค้าของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน ซึ่งได้มีการจัดทำโดยอังกฤษ เยอรมนี และสหภาพยุโรปนั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นถึง "ความบริสุทธิ์" ของหัวเว่ย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายลู่ กัง ได้มีถ้อยแถลงดังกล่าว หลังสื่อเยอรมนีรายงานว่า ผลการตรวจสอบที่อังกฤษ เยอรมนี และสหภาพยุโรป ได้ดำเนินการมาหลายปีนั้น ไม่พบ "ช่องโหว่" หรือ "backdoor" ในสินค้าของหัวเว่ย อย่างที่สหรัฐกล่าวโจมตีเรื่อยมา แต่ในทางกลับกัน สินค้าจากบริษัทของสหรัฐอย่างซิสโก้นั้น กลับปรากฏให้เห็นช่องโหว่ถึง 10 จุด นับตั้งแต่ปี 2556
-- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางเยือนบริษัท JL MAG Rare-Earth ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานแปรรูปแร่หายากแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี เพื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตและการบริหารกิจการของบริษัทดังกล่าว เช่นเดียวกับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมแร่หายาก โดยเป็นการเดินทางเยือนในประเทศครั้งแรกของปธน.สี นับตั้งแต่ที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนได้ยกระดับขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกจับตามองจากสื่อหลายแห่ง เพราะแร่หายากนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ทั้งยังไม่อยู่ในรายการสินค้าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าด้วย ส่งผลให้แร่หายากดูมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐจำเป็นต้องพึ่งพาจีนอยู่บ้างในฐานะผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ของโลก
นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนบริษัทแห่งนี้เป็นการส่งสัญญาณถึงสหรัฐในเรื่องการค้า และอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธเด็ดในศึกเจรจาการค้ากับสหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์กันอย่างต่อเนื่องว่า รัฐบาลจีนอาจสั่งห้ามส่งออกแร่หายากเพื่อเอาคืนสหรัฐ ที่ได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน
-- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โฆษกของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ของจีน เคยออกมายอมรับเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทได้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการ (OS) ของตนเองจริง เพื่อใช้เป็นแผนสองกรณีที่หัวเว่ยถูกแบนไม่ให้ใช้ซอฟต์แวร์ของสหรัฐในอุปกรณ์ของตน
โฆษกหัวเว่ยเปิดเผยว่า ระบบปฏิบัติการที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเองนั้น จะใช้เมื่อมีเหตุขัดข้องเท่านั้นเพื่อให้ธุรกิจพื้นฐานเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่นายริชาร์ด หยู ซีอีโอแผนกคอนซูเมอร์ของหัวเว่ย เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนีก่อนหน้านั้นว่า ระบบดังกล่าวเป็นแผนสำรองหากหัวเว่ยถูกแบนจริง แต่หัวเว่ยยังคงยินดีที่จะใช้ระบบปฏิบัติการของสหรัฐต่อไป
รายงานข่าวดังกล่าวของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้เผยแพร่ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางสำนักข่าวได้นำกลับมารายงานอีกครั้งในวันนี้ หลังจากที่บริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ออกมาประกาศระงับการทำธุรกิจกับหัวเว่ย ซึ่งส่งผลให้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยไม่สามารถอัพเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ตลอดจนเข้าถึงแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Google Play Store, Gmail และ YouTube ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกูเกิลได้
ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียจัดขึ้นทั้งหมด 7 เฟส เพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีชื่อว่า "โลกสภา" (Lok Sabha) จำนวน 543 คน
การเลือกตั้งเฟสแรกได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย. สำหรับเฟสสุดท้ายได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะมีการประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พ.ค.นี้
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ธนาคารกลางออสเตรเลียจะเปิดเผยรายงานการประชุม และสหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.
ส่วนพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย. รวมถึงยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนมี.ค. อังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 30 เม.ย. -1 พ.ค.