นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยอมรับว่า ตนเองไม่แน่ใจว่า จะสามารถปรับลดภาษีตามที่ได้ให้สัญญาไว้หรือไม่ ก่อนที่จะเริ่มต้นปีงบการเงินใหม่
นายมอร์ริสันได้ให้สัญญาเมื่อเช้าวานนี้ว่า จะดำเนินมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อปรับลดภาษีวงเงิน 1.58 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.093 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามที่สัญญาไว้ หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ต่อมาเมื่อคืนวานนี้ เขากลับยอมรับว่า การปรับลดภาษี อาจมีความล่าช้าออกไปเป็นเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ เพื่อให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันเวลาภายในปีงบการเงิน 2562/2563 การปรับลดภาษีต้องผ่านการอนุมัติของรัฐสภาก่อนสิ้นปีงบการเงินปัจจุบันในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม นายมอร์ริสันต้องรอจนกว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้งทั้งหมดก่อนจึงจะสามารถเรียกประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจจะไม่แล้วเสร็จจนกว่าจะถึงปลายเดือนมิ.ย.
นายมอร์ริสันกล่าวกับสำนักข่าวสกาย นิวส์ ออสเตรเลียเมื่อคืนวานนี้ว่า "เราต้องรอ และจะมีกระบวนการอย่างเป็นทางการ โดย ณ ขณะนี้ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดภาษี จนกว่าจะถึงปลายเดือนมิ.ย."
"มีโอกาสน้อยมากที่จะลดภาษีลงก่อนวันที่ 30 มิ.ย. และผมคิดว่า อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อพิจารณาจากคำแนะนำที่ผมได้รับ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การปรับลดภาษีเป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียงของนายมอร์ริสัน
ภายใต้มาตรการปรับลดภาษีนั้น ภาคครัวเรือนจะได้รับรายได้เฉลี่ยพิเศษ 2,160 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (1,494.7 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี
นอกจากนี้ รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะทำให้ชาวออสเตรเลียทุกคนที่มีรายได้ระหว่าง 45,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (31,140 ดอลลาร์สหรัฐ) ถึง200,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (138,402 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกันที่ 30% ภายในปีงบการเงิน 2567/2568