นายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ กล่าวโจมตีรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถึงความล้มเหลวในการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศ หลังการประกาศล้มละลายของบริษัทบริติช สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ
"รัฐบาลประสบความล้มเหลวอีกครั้งในการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศ ส่งผลให้แรงงานหลายพันตำแหน่งอาจถูกปลดออกจากงาน" นายคอร์บินกล่าว
นอกจากนี้ นางรีเบคคา ลอง เบลีย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีเงาฝ่ายธุรกิจของพรรคแรงงาน กล่าวว่า "นี่เป็นข่าวที่น่าตื่นตระหนกสำหรับแรงงานหลายพันคน และชุมชนในสกันธอร์ป และทีไซด์ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่มรดกของพรรคอนุรักษ์นิยมยังคงเป็นการทรุดตัวในภาคอุตสาหกรรม ท่ามกลางความขัดแย้งกับสหภาพยุโรป"
"รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยอุตสาหกรรมที่สำคัญนี้ และความเป็นอยู่ของชุมชนที่ทำงานในบริษัท โดยทำให้บริติช สตีลเป็นบริษัทของมหาชน" นางเบลีย์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทบริติช สตีล ประกาศล้มละลายในวันนี้ และเข้าสู่กระบวนการขายทอดกิจการ
การล้มละลายของบริติช สตีลทำให้แรงงานจำนวน 5,000 คนมีความเสี่ยงที่จะถูกปลดออกจากงาน รวมทั้งอีก 20,000 คนในห่วงโซ่อุปทาน
การเจรจาระหว่างบริษัทเกรย์บูล แคปิตอล ซึ่งถือหุ้นในบริติช สตีล และรัฐบาลอังกฤษ เกี่ยวกับการขอเงินกู้ 30 ล้านปอนด์เพื่อฟื้นฟูกิจการบริษัทได้ประสบความล้มเหลว
อย่างไรก็ดี ในระหว่างนี้ ทางบริษัทยังคงดำเนินการซื้อขายผลิตภัณฑ์เหล็กตามปกติ โดยจะยังคงจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้า
บริติช สตีลประสบปัญหาทางการเงิน หลังจากที่คำสั่งซื้อจากยุโรปลดน้อยลง อันเนื่องจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งการอ่อนค่าของปอนด์, การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ผลิตภัณฑ์เหล็กราคาถูกจากจีนก็ได้แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของทางบริษัท