รายงานของ UBS เผยว่า การที่สหรัฐเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจากจีนในขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าของทั้ง 2 ฝ่ายขยายวงมากขึ้นเรื่อยๆนั้น จะทำให้ร้านค้าประเภทที่ไม่ใช่วัสดุก่อสร้างหลายแห่งต้องปิดตัวลงทั่วทั้งสหรัฐ ส่งผลให้เกิดภาวะหยุดชะงักในอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศ UBS ให้ความเห็นว่า ร้านค้าเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอแบบดั้งเดิมกว่า 12,000 แห่ง ทำรายได้ต่อปีประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตราภาษีใหม่ที่สหรัฐอาจนำมาใช้นั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้กำไรจากการดำเนินงานปกติ (EBIT) ลดลงไม่เกิน 3%
ทั้งนี้ หลังจากที่สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นอัตรา 25% สหรัฐก็ยังได้มีการข่มขู่ว่าจะเก็บภาษีน้ำเข้าสินค้าจากจีนประเภทอื่นๆ เพิ่ม ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าด้วย
การกระทำของสหรัฐกระตุ้นให้จีนออกมาตรการตอบโต้ ซึ่งจีนก็มีทีท่าว่า "จะสู้จนถึงที่สุด" หากมีผู้ใดนำศึกมาถึงหน้าประตูบ้าน
นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าวว่า "อัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ระดับ 25% จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อผลกำไรของร้านค้าเหล่านี้ จนถึงจุดที่ทำให้ร้านค้าหลักๆ หลายแห่งต้องปิดตัวลงจริงๆ"
ทั้งนี้ ร้านค้าจำนวน 3,125 แห่ง หรือ 5% ของจำนวนร้านทั้งหมดได้ปิดตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 ถือเป็นสถิติที่ลดลงสูงที่สุดในรอบ 10 ปีจากระดับปีที่แล้ว