ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า ข้อตกลงบางรูปแบบที่เกี่ยวกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน อาจเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน หลังจากที่สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีว่า "มีความเป็นไปได้ที่จะรวมประเด็นหัวเว่ยในข้อตกลงการค้า" แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ตัดสินใจในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จะสั่งห้ามบริษัทของสหรัฐไม่ให้จัดหาสินค้าแก่หัวเว่ย และขึ้นบัญชีหัวเว่ยในรายชื่อบริษัทที่ไม่สามารถทำการค้าด้วยได้ หากไม่มีใบอนุญาต
ทั้งนี้ หัวเว่ยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย 5G ซึ่งสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากได้ด้วยความเร็วสูงสุด
การสั่งแบนหัวเว่ยเกิดขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรง หลังต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา และกำลังมีความกังวลกันว่าจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
จีนและสหรัฐแทบไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าในต้นเดือนนี้ ส่งผลให้คณะบริหารของปธน.ทรัมป์สั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ เป็น 25% จากเดิม 10%
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเพิ่มแรงกดดันจีนด้วยการขู่เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% สำหรับสินค้านำเข้าของจีนมูลค่าอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้สินค้าของจีนถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดแล้ว