ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2562 ลงสู่ระดับ 2.6% ซึ่งลดลง 0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.9% เนื่องจากผลกระทบของข้อพิพาทการค้า ภาวะตึงตัวด้านการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่
-- จีนออกประกาศเตือนประชาชนในการเดินทางไปยังสหรัฐจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งการประกาศเตือนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตสินค้าหรูหราของสหรัฐ ท่ามกลางการทำสงครามการค้ารอบล่าสุดที่ดูเหมือนว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ได้ระบุถึง เหตุการณ์ยิงกันบ่อยครั้ง การปล้นทรัพย์ และการโจรกรรม ว่าเป็นเหตุผลสำหรับการประกาศเตือนประชาชนจีนในการเดินทางไปยังสหรัฐ แต่ทางกระทรวงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสถิติหรือรายละเอียดเพิ่มเติม
-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 52.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งร่วงลงจากระดับ 54.5 ในเดือนเม.ย. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.5
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้เพิ่มการผลิตแร่หายาก รวมถึงร่วมมือกับญี่ปุ่นและประเทศพันธมิตรอื่นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของวามพยายามที่จะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประเทศต่างๆ รวมถึงจีนและรัสเซีย จะระงับการส่งออกแร่หายาก
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 ขยายตัว 0.4% จากไตรมาส 4/2561 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.5% เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
-- นายทิม คุก ซีอีโอของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า แอปเปิลมีพฤติกรรม "ผูกขาดตลาด" ซึ่งควรจะถูกแยกกิจการ เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ของสหรัฐ อาทิ กูเกิล อเมซอน และ เฟซบุ๊ก
นายคุกเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส นิวส์ว่า แอปเปิลเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ และการตรวจสอบของรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่ยุติธรรม แต่เขาปฏิเสธที่จะเห็นด้วยที่ว่า บริษัทของเขาทำการผูกขาดตลาด
-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายที่จะเปิดทางให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารรับรอง สามารถมีสถานะเป็นประชากรของสหรัฐได้ ซึ่งมติดังกล่าวสวนทางกับความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่คัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวมาโดยตลอด
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2562 จาก 6.3% สู่ระดับ 6.2% ซึ่งเป็นการตอกย้ำการหดตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จากมาตรการการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนโดยสหรัฐมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ด้านนายเดวิด ลิปตัน รองกรรมการผู้จัดการ IMF คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของจีนปี 2562 และ 2563 จะอยู่ที่ 6.2% และ 6.0% ตามลำดับ พร้อมกล่าวเสริมว่า แนวโน้มระยะสั้นยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรง