กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐยังคงไม่มีความยั่งยืน และจำเป็นต้องมีการปรับนโยบายเพื่อลดยอดขาดดุลการคลัง และทำให้หนี้สาธารณะลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง
IMF ระบุในแถลงการณ์เกี่ยวกับการทบทวนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐว่า การขยายมาตรการด้านการคลังของรัฐบาลสหรัฐได้ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ก็ทำให้อัตราส่วนหนี้ต่อ GDP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) ได้ประมาณการในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาว่า ตามข้อเสนองบประมาณปี 2563 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งให้กับสภาคองเกรสในเดือนมี.ค.นั้น คาดว่า ยอดขาดดุลการคลังจะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2563
CBO ระบุว่า หนี้สาธารณะจะเท่ากับ 87% ของ GDP ในปี 2572 ภายใต้งบประมาณของปธน.ทรัมป์ เมื่อเทียบกับ 78% ในปี 2562
ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF ระบุในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า "มาตรการที่ประสบความสำเร็จใดๆ อาจจะต้องอาศัยวิธีการแก้ปัญหาการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและประกันสังคม การปรับขึ้นภาษีทางอ้อม และ การเรียกเก็บภาษีคาร์บอน"