OutSystems ได้เผยแพร่ผลการวิจัยประจำปีฉบับที่ 6 เกี่ยวกับสถานะของการพัฒนาแอพพลิเคชันและความท้าทายที่ทีมพัฒนาและบริการต้องเผชิญ ที่มีชื่อว่า The State of Application Development, 2019: Is IT Ready for Disruption? ชี้ผู้นำด้านไอทีทั่วเอเชียแปซิฟิกวิตกกังวลเรื่องการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ , งานค้างปริมาณมาก และโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมสภาพ
การสำรวจความเห็นครั้งนี้ ได้มีการสำรวจความ้ห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีกว่า 3,300 รายจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจราว 17% มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)
สตีฟ ร็อตเตอร์, CMO ของ OutSystems กล่าวว่า "การสำรวจของเราในปี 2562 นี้ แสดงให้เห็นว่าแผนกไอที จำนวนมากกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักเมื่อเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลและการพัฒนาแอพพลิเคชัน ผลกระทบที่มากจากการเปลี่ยนแปลง ดังกล่าว ตลอดจนความต้องการในการเปลี่ยนระบบการทำงานมาสู่ระบบดิจิทัลกลายเป็นสิ่งควบคุมทิศทางกลยุทธ์ด้าน ไอที มาเป็นเวลาหลายปี และเมื่อรวมเข้ากับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงไม่แน่นอนในปัจจุบัน ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าทำไมบรรดาผู้นำธุรกิจถึงมีความกังวลเกี่ยวกับ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีความคล่องตัวเพื่อตอบรับกับตลาดในปัจจุบัน "
นายสตีฟอธิบายว่า รายงานการวิจัยฉบับใหม่ได้พบข้อมูลเชิงลึกที่มาจากผู้จัดการฝ่ายไอที, สถาปนิกองค์กร และนักพัฒนา เพื่อรับมือกับปัญหาที่มีอยู่มากมาย และพบด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลได้ส่งอิทธิพลต่อกลยุทธ์ธุรกิจในปัจจุบัน นั่นคือสาเหตุที่ความต้องการในการพัฒนาเว็บไซต์และอุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่มสูงขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วและความคล่องตัวก็มีความสำคัญกว่าที่เคยเป็นมา
ผลการสำรวจ 6 ข้อสำคัญที่มีผลกระทบต่อผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีชี้ว่า ความต้องการนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพิ่มสูงขึ้น จากผู้ตอบแบบสำรวจทั่วโลกพบว่า จำนวนแอพพลิเคชันที่มีกำหนดส่งมอบในปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 60% โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 38% ที่วางแผนจะส่งมอบแอพพลิเคชัน 25 แอปหรือมากกว่านั้นในปีนี้ และเมื่อพิจารณาเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้ตอบแบบสำรวจ 69% มีแผนที่จะส่งมอบแอพพลิเคชัน 10 แอปหรือมากกว่านั้นในปี 2562 ขณะที่อีก 52% ตั้งเป้าที่จะส่งมอบแอพพลิเคชัน 50 แอปหรือมากกว่านั้นในปีหน้า
เวลาที่ใช้ในการพัฒนานานเกินไป โดย 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจในเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า พวกเขาต้องใช้เวลาเฉลี่ยในการส่งมอบเว็บหรือแอพพลิเคชันมือถือถึง 5 เดือนหรือนานกว่านั้น
งานที่ยังค้างอยู่ โดย 63% ของผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ยังมีงานในการพัฒนาแอปค้างอยู่ในมือ โดย 16% ในจำนวนนั้นระบุว่ามีงานค้างอยู่มากกว่า 10 แอพพลิเคชันในตอนนี้
บุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาทั้งหายากและรักษาไว้ยาก ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เคยจ้างนักพัฒนา โดย 75% ของผู้ตอบแบบสำรวจจากทั่วโลกอธิบายว่า ผู้ที่มีความสามารถในการพัฒนาแอปนั้นหายาก ขณะที่มีองค์กรในเอเชียแปซิฟิกเพียง 36% ที่มีทีมพัฒนาแอปที่ขนาดใหญ่ขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการเก็บรักษานักพัฒนาแอปผู้มีความสามารถไว้นั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล
การทำงานที่ยังบรรลุผลช้ากว่ากำหนด แม้องค์กรในเอเชียแปซิฟิกถึง 69% จะลงทุนในเครื่องมือและบริการอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา แต่คะแนนความรวดเร็วในการเสร็จสมบูรณ์โดยเฉลี่ยนั้นกลับย่ำแย่ โดยได้เพียง 2.76 จาก 5 คะแนน นั่นหมายถึงองค์กรส่วนใหญ่ในภูมิภาคยังคงอยู่ในกระบวนการของการกำหนดความคล่องตัวในการทำงาน
การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรกว่า 69% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ลงทุนไปกับการปฏิบัติงานที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในปีที่ผ่านมา เช่น การเก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้า ความคิดริเริ่มนวัตกรรม และการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ใช้งานง่าย โดยที่แอปใหม่ๆ ที่มีเป้าหมายจะพัฒนาขึ้นในปี 2019 ล้วนให้ความสำคัญกับการใช้งานโดยตรงของพันธมิตรธุรกิจและลูกค้ามากที่สุด