นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในวันนี้ว่า ผู้ควบคุมด้านกฎระเบียบของจีนควรจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรักษาสภาพคล่องที่เพียงพอในระบบการเงิน ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า จีนจะเปิดเผยนโยบายเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ
นายหลิวกล่าวในการประชุมด้านการเงินในนครเซี่ยงไฮ้ว่า จีนมีเครื่องมือด้านนโยบายจำนวนมาก และสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ
แม้จีนออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจและผ่อนคลายนโยบายมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงก็ยังคงเผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัวกลับไปสู่ภาวะที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ลุกลาม ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
นายหลิวแสดงความเห็นดังกล่าว หลังจีนเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวของสินเชื่ออ่อนแอเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า จำเป็นจะต้องมีการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น
นอกจากนี้ กิจกรรมการผลิตยังหดตัวลงในเดือนพ.ค. และยอดการนำเข้าร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ
นายหลิวกล่าวว่า ในปัจจุบัน จีนเผชิญแรงกดดันจากภายนอกประเทศ แต่แรงกดดันนั้น จะช่วยให้จีนเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองในด้านนวัตกรรม และ เร่งอัตราการพัฒนาความเร็วสูง ขณะเดียวกันนายหลิวกล่าวเสริมว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการปฏิรูป และการเปิดเสรี
ทั้งนี้ นายหลิวยังเป็นผู้นำในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนด้วย