สมาคมผู้ประกอบการเรือนอร์เวย์ได้ออกโรงเตือนถึงเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีที่น่านน้ำอ่าวโอมานว่า จะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายน้ำมันทั่วโลก ในขณะที่บริษัทชิปปิ้งต่างหาทางที่จะลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
จอห์น แฮมเมอร์สมาร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยและการวางแผนรับมือเหตุฉุกเฉินของสมาคมฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน เรามีเรือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนอร์เวย์ 25 ลำในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมของนอร์เวย์ในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อวานนี้ เรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี 2 ลำถูกโจมตีในอ่าวโอมาน ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ โดยลำหนึ่งเป็นเรือสัญชาติญี่ปุ่นชื่อ Kokuka Courageous ส่วนอีกลำหนึ่งเป็นเรือสัญชาติไต้หวันชื่อ Front Altair
รายงานระบุว่า ในขณะเกิดเหตุนั้น เรือ Kokuka Courageous กำลังแล่นในอ่าวโอมาน โดยออกเดินทางจากซาอุดีอาระเบีย ขณะมุ่งหน้าสู่ไทย และสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ลูกเรือทั้ง 21 คนของเรือ Kokuka Courageous สามารถหลบหนีบนเรือชูชีพได้อย่างปลอดภัย และมุ่งหน้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ส่วนเรือ Front Altair ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่มีการจดทะเบียนในหมู่เกาะมาร์แชล ได้เกิดเพลิงไหม้ แต่ลูกเรือทุกคนปลอดภัย โดยนายแพท อดัมสัน โฆษกของบริษัท Frontline แถลงยืนยันว่า เรือ Front Altair ยังคงลอยลำในอ่าวโอมาน และไม่ได้จมลงตามที่สื่อรายงานข่าว
แฮมเมอร์สมาร์คกล่าวถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นว่าเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรง และยังเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือจำนวน 4 ลำ ซึ่งหนึ่งในเรือดังกล่าวเป็นเรือสัญชาตินอร์เวย์เพียงแค่ 1 เดือนก่อน
"นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงทั้งในแง่ของชีวิตและสุขภาพของลูกเรือ ตลอดจนความปลอดภัยของเรือต่างๆและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม" นายแฮมเมอร์สมาร์ค กล่าว