สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้เพื่อทำการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในการตอบโต้ต่อการที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า จะยังคงกดดันต่ออิหร่าน จนกว่าอิหร่านจะยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้ สหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรต่ออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งจะทำให้เขาไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับสหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐยังได้คว่ำบาตรต่อผู้นำทางกองทัพของอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธโจมตีโดรนของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-- ตลาดการเงินจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นอกรอบการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครโอซากาของญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การพบปะเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง อาจจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้
นักลงทุนในตลาดการเงินคาดหวังว่า การพบปะเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนในครั้งนี้ จะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทการค้าอันยื้อเยื้อ หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนเม.ย. ในวันนี้ โดยระบุว่า แนวโน้มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ประกอบกับทิศทางเงินเฟ้อที่คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น เป็นเหตุให้ BOJ เปลี่ยนแปลงสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward guidance) เพื่อแสดงให้ตลาดได้รับรู้อย่างชัดเจนว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำต่อไปนานอีกเท่าใด
รายงานการประชุมประจำเดือนเม.ย. ระบุว่า กรรมการ BOJ หลายรายมีความเห็นตรงกันว่า เมื่อประเมินจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกแล้ว ทางแบงก์ชาติควรแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนในการเดินหน้านโยบายผ่อนคลายพิเศษต่อไป
ส่วนในประเด็นเงินเฟ้อนั้น กรรมการ BOJ ส่วนใหญ่เชื่อว่า เงินเฟ้อจะขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนบรรลุเป้าหมาย 2% ในท้ายที่สุด เพียงแค่ไม่ใช่ในเร็ววันนี้ และหากเงินเฟ้อขาดปัจจัยกระตุ้นแล้ว ทางแบงก์ชาติควรใช้นโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อหนุนเงินเฟ้อ
-- นายมอร์เตซา ราห์มานี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำญี่ปุ่นกล่าวว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซในช่วงต้นเดือนนี้ เพื่อหวังป้ายสีอิหร่านให้ถูกมองว่าเป็นประเทศที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยนายราห์มานีกล่าวว่า อิหร่านประณามการโจมตีในดังกล่าว โดยเชื่อว่าสหรัฐและอีกหลายประเทศซึ่งไม่ต้องการเห็นเสถียรภาพในตะวันออกกลางมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้
นายราห์มานียังระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพทางการเมืองในภูมิภาค และสร้างความไม่ไว้วางใจต่ออิหร่าน และกล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความต้องการที่จะเจรจากับอิหร่านว่า เป็นการหลอกลวงซึ่งไม่น่าเชื่อถือ โดยระบุว่า ถ้าประธานาธิบดีทรัมป์มีความจริงใจ สหรัฐก็ควรกลับเข้าสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และยกเลิกการคว่ำบาตร
-- นายหวัง โส่วเหวิน รมช.พาณิชย์จีน กล่าวว่า คณะเจรจาการค้าของจีนกำลังหารือกับตัวแทนจากทางสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกรอบการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนนี้ โดยนายหวังระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต้องการสร้างความคืบหน้าจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำของจีนและสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับการประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้
-- บริษัทเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า บริษัทไม่ควรต้องรับผิดชอบหากจัดส่งพัสดุโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะละเมิดคำสั่งห้ามของคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการส่งออกสินค้าให้กับบริษัทบางแห่งของจีน โดยการฟ้องร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเฟดเอ็กซ์ได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีนอีกครั้งเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ เมื่อพัสดุที่บรรจุโทรศัพท์หัวเว่ยที่ถูกส่งไปยังสหรัฐได้ถูกตีกลับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปยังผู้ส่งในอังกฤษ ซึ่งเฟดเอ็กซ์ระบุว่าเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงาน โดยความวิตกที่ว่า จีนจะขึ้นบัญชีดำเฟดเอ็กซ์นั้นส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลง 2.7% เมื่อวานนี้
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐไม่มีแผนที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อเขาเดินทางไปยังเกาหลีใต้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังเข้าร่วมประชุมซัมมิตผู้นำกลุ่ม G20 ในญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยกำหนดการเดินทางของปธน.ทรัมป์เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าปธน.ทรัมป์จะเดินทางไปยังเขตปลอดทหารที่แบ่งแยกระหว่าง 2 เกาหลีหรือไม่
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยเกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย ฝรั่งเศสเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. สหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จาก Conference Board ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดสาขาริชมอนด์ และ การเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก GfK ส่วนสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)