World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 26, 2019 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 179.32 จุด หรือ 0.67% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้

ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่สภาวิเทศสัมพันธ์ในกรุงนิวยอร์กเมื่อวานนี้ นายพาวเวลกล่าวเพียงว่า เฟดกำลังประเมินว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และเฟดกำลังใช้ท่าทีรอคอยและจับตาดูสถานการณ์ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจในระยะนี้

-- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้แสดงความเห็นคัดค้านการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% โดยกล่าวว่า การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จะเป็นการดำเนินการที่มากเกินไป

"ผมคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จะเป็นการดำเนินการที่มากเกินไป ซึ่งผมไม่คิดว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะทำให้เฟดต้องลดอัตราดอกเบี้ยขนาดนี้ แต่ผมจะสนับสนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งผมไม่ต้องการตัดสินล่วงหน้าก่อนการประชุม เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปได้เมื่อถึงเวลาการประชุม แต่ถ้าผมต้องเข้าประชุมวันนี้ นั่นจะเป็นสิ่งที่ผมจะทำ" นายบูลลาร์ดกล่าวต่อสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก

-- นักลงทุนจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นอกรอบการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า ผู้นำสหรัฐและจีนจะพบปะกันในวันเสาร์นี้ ซึ่งจะเป็นการพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่ที่การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายยุติลงในเดือนที่แล้ว

ทางด้านนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าตามคำแนะนำของผู้นำของทั้งสองประเทศ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะดำเนินการเจรจาต่อไป

การสนทนาดังกล่าวมีขึ้น ก่อนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย.นี้ นอกรอบการประชุม G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐเต็มใจที่จะเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้

รายงานระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจจะมีการประกาศภายหลังการพบกันระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้

-- ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 7.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 626,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560

-- พรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทางพรรคจะประกาศรายชื่อผู้ชนะในการชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ในวันที่ 23 ก.ค. ซึ่งผู้ชนะจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษโดยอัตโนมัติ

พรรคอนุรักษ์นิยมระบุว่า การนับคะแนนเสียงของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมทั่วประเทศจำนวน 160,000 คนจะยุติลงในวันที่ 22 ก.ค. และจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะในวันรุ่งขึ้น

ขณะนี้ การชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างนายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และอดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน และนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีต่างประเทศ โดยโพลล์ทุกสำนักต่างยกให้นายจอห์นสันเป็นตัวเก็งที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ

-- สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) เปิดเผยดัชนียอดค้าปลีกดิ่งลงสู่ระดับ -42 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ -10 หลังจากอยู่ที่ระดับ -27 ในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ ดัชนีคาดการณ์ยอดขายของเดือนก.ค.ดิ่งลงสู่ระดับ -11 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 จากระดับ +7 ในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ การดิ่งลงของดัชนียอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ถูกสำรวจเปรียบเทียบกับยอดขายในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ในระดับสูง เนื่องจากอยู่ในช่วงสภาพอากาศร้อน และเป็นช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นยอดขาย

-- เงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า อังกฤษอาจจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง โดยความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในช่วงไตรมาส 2 สู่ระดับ 0% เมื่อเทียบรายไตรมาส จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้วที่ระดับ 0.2%

ทางด้านนายบอริส จอห์นสัน ซึ่งเป็นตัวเก็งในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า อังกฤษจะต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ต.ค. แม้ว่าจะไม่มีการทำข้อตกลงก็ตาม

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก GfK ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. ญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. จีนเตรียมเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ด้านอียูเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ กำไรภาคธุรกิจไตรมาส 1/2562 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2562 รวมถึงยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ