เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ว่า บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน จะยังคงถูกปฏิบัติเหมือนกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สร้างความสับสนด้วยการยืนยันว่าจะผ่อนคลายคำสั่งห้ามการขายสินค้าให้กับหัวเว่ย
ปธน.ทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยการสัญญากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนนอกรอบการประชุมซัมมิต G20 ในญี่ปุ่นว่า เขาจะอนุญาตให้บริษัทสหรัฐขายสินค้าให้กับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐได้เพิ่มหัวเว่ยในรายชื่อ Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายอุปกรณ์ต่างๆให้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นการลงโทษสำหรับการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ
การประกาศของปธน.ทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้รับการขานรับจากบรรดาผู้ผลิตชิปของสหรัฐที่ยังคงต้องการขายสินค้าให้กับหัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นลูกค้ารายสำคัญของสหรัฐ
แต่ถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์ได้สร้างความสับสนให้กับผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลในการทำความเข้าใจกับนโยบายของปธน.ทรัมป์ที่เกี่ยวกับหัวเว่ย
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเมื่อใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาของปธน.ทรัมป์ และความเป็นไปได้ที่สัญญานั้น อาจจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของการขอใบอนุญาต