กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า จะกำหนดภาษีนำเข้าสูงถึง 456% สำหรับเหล็กกล้าที่ผลิตในเกาหลีใต้หรือไต้หวันซึ่งได้ถูกส่งไปยังเวียดนามเพื่อทำการแปรรูปเล็กน้อย และส่งออกไปยังสหรัฐในท้ายที่สุด
-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการชะลอตัวของยอดส่งออกได้บดบังความแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ๆภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายของรัฐบาลและบรรยากาศในตลาดที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 52 ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้
-- สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีใต้ได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศลงสู่ระดับ 2.4-2.5% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.6-2.7%
เกาหลีใต้ระบุว่า การปรับลดคาดการณ์เป็นผลมาจากการส่งออกและการลงทุนในประเทศที่ซบเซา ภาคธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ที่ฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนด
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ระดับ 2.6% ในปี 2563
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้ามูลค่า 5.745 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.820 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนเม.ย. และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่เหล็ก ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
-- คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า นายเดวิด ลิปตัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ IMF จะรักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ ภายหลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)
-- นายยูกิโตชิ ฟูโนะ กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า BOJ จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษเกินกว่ากรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลก และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้วางแผนที่จะลงทุน 1 ล้านล้านวอน (854.76 ล้านดอลลาร์) ต่อปี เพื่อพัฒนาวัสดุสำหรับการเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากญี่ปุ่นคุมเข้มกฎเกณฑ์การส่งออกวัสดุด้านเทคโนโลยีไปยังเกาหลีใต้
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการคุมเข้มกฎเกณฑ์สำหรับการส่งออกวัสดุที่ใช้ในการผลิตสมาร์ทโฟนและจอภาพไปยังเกาหลีใต้ โดยระบุถึงความเสียหายที่สำคัญต่อความสัมพันธ์ของความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ
-- หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ของจีนรายงานว่า การเผชิญหน้าและการละเมิดกฎหมายในฮ่องกงอาจทำลายชื่อเสียงของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจ และอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของฮ่องกงเช่นกัน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เตรียมเสนอชื่อสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ หลังก่อนหน้านี้ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดหลายต่อหลายครั้ง
ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า เขาเตรียมเสนอชื่อนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นรองประธานบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่เฟดสาขาเซนต์หลุยส์ และนางจูดี้ เชลตัน ซึ่งเป็นกรรมการผู้บริหารของธนาคารเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนายุโรป (EBRD) ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการเฟด อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อนายวอลเตอร์และนางเชลตัน จะต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาอีกครั้ง
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ว่า บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน จะยังคงถูกปฏิบัติเหมือนกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สร้างความสับสนด้วยการยืนยันว่าจะผ่อนคลายคำสั่งห้ามการขายสินค้าให้กับหัวเว่ย
-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ว่า เขาไม่ได้พิจารณาขึ้นภาษีการขายเกินระดับ 10% ในช่วงที่รัฐบาลของเขาบริหารประเทศ และคิดว่าญี่ปุ่นคงไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีในระดับดังกล่าวไปอีกอย่างน้อย 10 ปี
-- บริษัท เทสลา อิงค์ เผยทำสถิติส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้สูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2/2562 โดยสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น 3S จำนวน 77,550 คันในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 73,144 คัน
ส่วนการส่งมอบรถยนต์ทุกรุ่น เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาสแรก สู่ 95,200 คัน รวมถึงรถรุ่น S และ X จำนวน 17,650 คัน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้โดยเฉลี่ยว่า การส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดของเทสลาอาจอยู่ที่ 89,084 คัน
เทสลาเปิดเผยว่า บริษัทได้รับคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าที่ส่งมอบในไตรมาส 2 แม้ว่ากลุ่มผู้ซื้อในสหรัฐจะได้รับการลดหย่อนภาษีน้อยลงก็ตาม