ผลสำรวจบรรดาผู้บริหารฝ่ายการเงินเผยให้เห็นว่า บริษัทในอังกฤษมีแผนที่จะปรับลดการลงทุนและการจ้างงาน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยความกังวลดังกล่าวเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่มีการทำประชามติ Brexit เมื่อปี 2559
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย ดีลอยท์ บริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงิน พบว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ถึง 83% เชื่อว่าการออกจาก EU จะส่งผลเสียต่อสภาวะทางธุรกิจของอังกฤษในระยะยาว และมีเพียง 4% ที่บอกว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะใช้งบดุลที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดนับต้งแต่เหตุการณ์ล้มละลายของ เลห์แมน บราเธอร์ส เมื่อปี 2551 ที่เป็นสาเหตุของวิกฤติการเงินโลกในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของซีเอฟโอที่ตอบแบบสำรวจ คาดว่าจะปรับลดการจ้างงานในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลของ Brexit และ 47% คาดว่าจะปรับลดการใช้จ่ายด้านทุน
บริษัทในอังกฤษได้ปรับลดการลงทุนมาตลอดปี 2561 ซึ่งยาวนานที่สุดนับแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก จนทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่าวิกฤติ Brexit อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ทั้งนี้ ผลสำรวจซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวในไตรมาสที่ 2 และนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ออกโรงเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจาก Brexit แบบไม่มีข้อตกลง และจากความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในเศรษฐกิจโลก