ราคาหุ้นของดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยทรุดตัวลงกว่า 5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางความไม่มั่นใจต่อแผนปรับโครงสร้างของทางธนาคาร
นักวิเคราะห์ไม่เชื่อมั่นว่า แผนปรับโครงสร้างของนายคริสเตียน เซวิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดอยซ์แบงก์ จะสามารถพลิกฟื้นกิจการธนาคาร ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และธนาคารสหรัฐสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดในเยอรมนีเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์ประกาศปรับลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เหลือ 74,000 ตำแหน่งภายในปี 2565, ปรับลดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลงราว 40% ในธุรกิจที่ประสบปัญหา และจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลในปี 2562 และ 2563
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์เตรียมถอนตัวออกจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วโลก และคาดว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 7.4 พันล้านยูโรภายในปี 2565 ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารขาดทุนราว 2.8 พันล้านยูโรในไตรมาส 2/2562 โดยธนาคารจะเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 25 ก.ค.
ขณะเดียวกัน ดอยซ์แบงก์ยังมีแผนตั้ง bad bank มูลค่า 7.4 หมื่นล้านยูโร (8.305 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อบริหารสินทรัพย์ที่มีปัญหา
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของดอยช์แบงก์เกิดขึ้นหลังจากการเจรจาควบรวมกิจการระหว่างดอยซ์แบงก์ และคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารคู่แข่ง ประสบความล้มเหลว โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แม้ว่าการเจรจาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งต้องการผลักดันให้ภาคธนาคารมีความแข็งแกร่ง