หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มบริษัทในสหรัฐที่เป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน เพื่อรีบขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ซัพพลายเออร์เหล่านี้ทำธุรกิจกับหัวเว่ยได้ เพราะขณะนี้หัวเว่ยยังติดรายชื่อบริษัทที่ถูกห้ามซื้อชิ้นส่วนประกอบและเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
อย่างไรก็ดี โมนิกา คราวลีย์ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยกล่าวว่า รมว.คลังสหรัฐมีการพูดคุยกับนักธุรกิจภาคเอกชนเป็นปกติอยู่แล้ว โดยนายมนูชิน ไม่ได้มีการเร่งให้บริษัทสหรัฐรีบดำเนินการในเรื่องการทำธุรกิจกับหัวเว่ยเป็นกรณีพิเศษ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยหลังการประชุมกับปธน.สี จิ้นผิง ของจีน ในเดือนที่แล้วที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่นว่า สหรัฐจะยกเลิกข้อจำกัดบางส่วนต่อหัวเว่ย ขณะที่จีนเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกการแบนหัวเว่ย
อย่างไรก็ดี ล่าสุดเมื่อวานนี้ นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐจะไม่ตัดบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน ออกจากรายชื่อบริษัทที่ถูกห้ามซื้อชิ้นส่วนประกอบและเทคโนโลยีจากบริษัทสหรัฐ โดยที่ไม่ได้รับอุนญาตจากรัฐบาล แต่ทางกระทรวงพาณิชย์จะออกใบอนุญาตเป็นรายกรณี ซึ่งจะต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
นายรอสส์กล่าวในการแถลงข่าวว่า "หัวเว่ยจะยังคงอยู่ในรายชื่อ Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายอุปกรณ์ต่างๆ ให้ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นการลงโทษสำหรับการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และการประกาศดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงขอบเขตของรายการสินค้าต่างๆ ที่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ หรือข้อสันนิษฐานของการปฏิเสธ