World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 18, 2019 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนน 332 ต่อ 95 เสียง ให้ระงับกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในกรณีที่ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงเหยียดเชื้อชาติต่อสมาชิกสภาคองเกรส โดยกระบวนการทางกฎหมายที่จะถอดถอนปธน.ทรัมป์ในกรณีดังกล่าวได้ถูกตีตกไปในสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ แม้จะได้รับการสนับสนุนจากส.ส.เกือบ 100 คนก็ตาม

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 8.888 แสนล้านเยน (8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งขาดดุลลดลงเนื่องจากการชะลอตัวลงของยอดส่งออกไปยังประเทศในเอเชีย ท่ามกลางข้อพิพาทการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติ 230 ต่อ 198 เสียง ตัดสินว่านายวิลเลียม บาร์ รมว.ยุติธรรม และนายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์ของสหรัฐ มีความผิดฐานละเมิดหมายศาลและขัดขวางการดำเนินงานของรัฐสภาที่เกี่ยวกับกรณีการเพิ่มคำถามเพื่อระบุสถานะความเป็นพลเมืองของผู้ถูกสอบถามในแบบสำรวจสำมะโนประชากร

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. สหรัฐมีการผลิตน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งน้อยกว่าระดับของสัปดาห์ก่อนหน้า 300,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ยอดการนำเข้าน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 470,000 บาร์เรลต่อวัน และยอดการส่งออกน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 514,000 บาร์เรลต่อวันจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

-- กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐเตรียมส่งทหารอีกประมาณ 2,100 นาย เข้าไปประจำการบริเวณชายแดนทางตอนใต้ที่ติดกับเม็กซิโก ตามคำร้องขอของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เพื่อเข้าไปสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานศุลกากรและการป้องกันแนวชายแดนของสหรัฐ (CBP) ในด้านการเฝ้าระวังทางอากาศ การปฏิบัติงาน การขนส่ง และการสนับสนุนด้านการบริหาร

-- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานในวันนี้ว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียคาดว่า จะยังคงแข็งแกร่ง แต่การขยายตัวในปีนี้และปี 2563 จะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากความต้องการภายในประเทศได้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลก

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศในปีนี้ลง 0.3% สู่ระดับ 2.2% โดยการปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% ในการประชุมวันนี้

-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการบรรลุข้อตกลงร่วมกันนั้น ได้หยุดชะงักลง เนื่องจากอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับประเด็นบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยแม้จะมีรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า สหรัฐจะผ่อนคลายความเข้มงวดด้านการขายอุปกรณ์บางส่วนให้กับหัวเว่ย แต่ทางการจีนยังคงรอดูว่า สหรัฐจะดำเนินการดังกล่าวอย่างจริงจังหรือไม่ ก่อนที่จะเดินหน้าจัดการเจรจารอบใหม่

-- นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) เผยอังกฤษจะต้องเผชิญกับผลพวงต่างๆนานา หากอังกฤษเลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรปโดยปราศจากข้อตกลง พร้อมกับชี้ด้วยว่า ร่างข้อตกลงที่ถูกปฏิเสธไปแล้ว 3 ครั้งของนางเทเรซา เมย์ นั้น เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้อังกฤษถอนตัวจาก EU ได้อย่างมีระเบียบแบบแผน

-- นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐได้ส่งจดหมายเรียกร้องให้สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) และคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ดำเนินการสอบสวนเรื่องความมั่นคงแห่งชาติและความเป็นส่วนตัวของการใช้งาน FaceApp ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันถ่ายภาพที่สามารถตกแต่งใบหน้าซึ่งพัฒนาขึ้นในรัสเซีย

-- กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านของเกาหลีใต้ร่วงลง 28.2% ในช่วงครึ่งปีแรก สู่ระดับ 314,108 หลัง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน ส่วนในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว ยอดขายบ้านปรับตัวลง 15.6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 54,893 หลัง

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลง 0.25% สู่ระดับ 5.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี โดยธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า การดำเนินการในวันนี้จะสอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายเดือนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ