ผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ในจีน ได้ยกตัวอย่างคู่แข่งอย่างโนเกียซึ่งมีกิจการร่วมค้ากับรัฐบาลจีน เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่าการประเมินความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ควรขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทผู้จำหน่ายสินค้านั้น ๆ
แคทเธอรีน เฉิน สมาชิกคณะกรรมการและรองประธานอาวุโสของหัวเว่ยให้สัมภาษณ์ในการประชุมสื่อมวลชนที่กรุงบรัสเซลส์ว่า "ส่วนประกอบของอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งมีการผลิตและประกอบมาจากหลายประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศในยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย แล้วคุณคิดว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะเรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์จีนหรือผลิตภัณฑ์ของทั่วโลกล่ะ"
เฉินได้ยกตัวอย่างโนเกีย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 2 คู่แข่งหลักที่มีสำนักงานใหญ่ในยุโรปตอนเหนือว่า "โนเกียมีกิจการร่วมทุนกับจีน หรือที่จริงคือ รัฐบาลจีนมีหุ้นอยู่ในกิจการร่วมค้านั้น พวกเขาให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่น ไม่ใช่เฉพาะในตลาดจีน แต่ยังให้กับประเทศอื่น ๆ ประมาณ 50 แห่งทั่วโลก ดังนั้นคุณจะเรียกว่าพวกเขาเป็นบริษัทยุโรปหรือบริษัทจีนกันล่ะ"
เฉินสรุปว่า "สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกก็คือ การประเมินความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ควรจะขึ้นอยู่กับสัญชาติของผู้ขายหรือบริษัทใด"