จูเลียส แบร์ กลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์กิ้งชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดเผยกำไรสุทธิประจำครึ่งปีแรกของปีนี้ที่ระดับ 391 ฟรังก์สวิส (397.52 ล้านดอลลาร์) ร่วงลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับปัจจัยกดดันจากอัตราดอกเบี้ยติดลบ ความซบเซาในตลาด และการที่ลูกค้าไม่ต้องการลงทุนเสี่ยง
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 แล้ว จูเลียส แบร์ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 18%
เบิร์นฮาร์ด ฮ็อดเลอร์ ประธานบริหารของจูเลียส แบร์ เปิดเผยว่า ศักยภาพในการทำกำไรในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ฟื้นตัวขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว เมื่อประเมินจากกิจกรรมของลูกค้าและมูลค่าสินทรัพย์
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังเดินหน้าแผนปรับลดจำนวนพนักงานและถอนธุรกิจออกจากตลาดที่แนวโน้มไม่สดใสเพื่อปรับลดต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะปรากฏให้เห็นผลลัพธ์อันดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ได้เข้าร่วมทุนกับ จูเลียส แบร์ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 1 บริษัทเป็นประเภทบริษัทหลักทรัพย์ โดยธนาคารถือหุ้น 60% และ จูเลียส แบร์ ถือหุ้น 40% ซึ่งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1,800 ล้านบาท
ขอบเขตการทำธุรกิจของบริษัทร่วมทุนและผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในประเทศไทย เกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศ ข้อมูลและประสบการณ์ด้านการลงทุนในต่างประเทศเพื่อบริหารความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้า พัฒนาบุคลากรและความรู้เกี่ยวกับการบริหารความมั่งคั่งในระดับสากล