คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดไม่ทราบชนิดจำนวน 2 ลูก ลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ในช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ JSC ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดลูกแรกในเวลา 05.34 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ และจากนั้นได้ยิงอีกลูกในเวลา 05.57 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยยิงจากบริเวณใกล้ชายฝั่งตะวันออกของเมืองวอนซาน พร้อมระบุว่า จรวดเคลื่อนตัวด้วยระยะทาง 430 กิโลเมตร
รายงานระบุว่า ทางการเกาหลีใต้และสหรัฐกำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดชนิดใดในวันนี้
-- บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ ยินยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) เพื่อยุติการสอบสวนกรณีที่เฟซบุ๊กปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานรั่วไหล
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) แถลงว่า เฟซบุ๊กยินยอมจ่ายเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีที่ทางบริษัทใช้ข้อความหลอกลวงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่บริษัทอาจลักลอบใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโบอิ้ง และแคทเธอร์พิลลาร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,269.97 จุด ลดลง 79.22 จุด หรือ -0.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,019.56 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,321.50 จุด เพิ่มขึ้น 70.10 จุด หรือ +0.85%
-- โบอิ้ง โค ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐ เผยบริษัทพิจารณาที่จะชะลอหรือยุติการผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX เป็นการชั่วคราว หากประเทศต่าง ๆ ยังคงสั่งห้ามไม่ให้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวทำการบินในระยะเวลาเกินกว่าที่ทางบริษัทคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน 5.82 ดอลลาร์/หุ้น สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 1.87 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายงานดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นโบอิ้งปิดตลาดร่วงลง 3.12%
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐและจีนจะเริ่มการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีอีกครั้งในวันอังคารหน้าที่นครเซี่ยงไฮ้
การเจรจาดังกล่าวจะเป็นการประชุมตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงกันในระหว่างการประชุม G20 ว่า ทั้งสองฝ่ายจะสงบศึกการค้าชั่วคราว และจะจัดการเจรจาร่วมกันอีกครั้ง
-- นายบอริส จอห์นสัน ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้เดินทางไปยังพระราชวังบักกิ้งแฮม เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
หลังการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นายจอห์นสันกล่าวว่า เขาจะนำอังกฤษให้แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 31 ต.ค. แม้ไม่มีการทำข้อตกลงก็ตาม
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.6 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 51.5 ในเดือนมิ.ย.
การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้การจ้างงานชะลอตัว
-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายมนูชิน และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ จะเดินทางไปยังจีนในวันจันทร์หน้า เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีนในวันอังคารและวันพุธ
"เรามีประเด็นที่ต้องหารือมากมาย ผมคาดหวังว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้แล้ว เราจะมีการประชุมอีกครั้งที่วอชิงตัน ดีซี และหวังว่าเราจะยังคงมีความคืบหน้าต่อไป" นายมนูชินกล่าว