นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า บริษัทอเมซอน ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ มีการทำธุรกิจในลักษณะที่กีดกันไม่ให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้ามาแข่งขันในตลาด ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายอุตสาหกรรมค้าปลีกของสหรัฐ โดยอเมซอนสมควรถูกสอบสวนเช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลขนาดใหญ่หรือบิ๊กเทครายอื่น ๆ
ด้านโฆษกของอเมซอนได้ตอบโต้ถ้อยแถลงของนายมนูชินว่า อเมซอนไม่ได้กีดกันธุรกิจขนาดเล็ก แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตไปได้ ขณะเดียวกัน การเติบโตของอเมซอนไม่ได้เป็นการทำลายวงการค้าปลีก เพราะอเมซอนคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 4% ของอุตสาหกรรมค้าปลีกสหรัฐ และยอดขายส่วนใหญ่ยังคงเป็นยอดขายจากหน้าร้าน ไม่ใช่ออนไลน์
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงกำลังเปิดการสอบสวนบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลขนาดใหญ่หรือบิ๊กเทค เพื่อประเมินว่า บริษัทเหล่านี้ดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ต่อต้านการแข่งขันหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กำลังดำเนินการเพื่อตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางกระทวงจะตรวจสอบว่า บรรดาแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำมีอำนาจทางการตลาดหรือไม่และอย่างไร และทำการปฏิบัติที่ลดการแข่งขัน ขัดขวางนวัตกรรม หรือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่เฉพาะเจาะจง แต่กล่าวว่า การทบทวนจะพิจารณาถึงความวิตกเกี่ยวกับการสืบค้น สื่อสังคม และบริการค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงบริษัท อัลฟาเบท อเมซอนดอทคอม เฟซบุ๊ก และแอปเปิ้ล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ขณะนี้ผู้บังคับใช้กฏหมายของสหรัฐจำเป็นต้องป้องกันการนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิด การต่อต้านการแข่งขัน การปิดกั้นนวัตกรรม และ การกระทำลักษณะอื่นๆ ที่แสดงถึงการมีอำนาจทางการตลาดที่มากเกินไปของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี หลังจากที่เพิกเฉยมานานเกินไป