กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ได้ประกาศอนุมัติแผนควบรวมกิจการระหว่างบริษัทที-โมบาย ยูเอส อิงค์ กับสปรินท์ คอร์ป แล้วในวันนี้ โดยมีเงื่อนไขให้ทั้งสองบริษัทขายธุรกิจเติมเงินของสปรินท์ รวมถึง Boost Mobile ให้แก่บริษัทดิช เน็ตเวิร์ก คอร์ป
อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวยังคงเผชิญกับอุปสรรค หลังไม่นานมานี้ คณะอัยการสูงสุดของรัฐทั้ง 10 รัฐในสหรัฐ ได้ยื่นฟ้องเพื่อขอให้ยุติข้อตกลงควบรวมกิจการดังกล่าว
คำฟ้องร้องของคณะอัยการระบุว่า การควบรวมกิจการของผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายขนาดใหญ่เป็นอัน 3 และ 4 ของสหรัฐจะส่งผลให้ราคาค่าบริการโทรศัพท์ปรับตัวขึ้น โดยคณะอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงประจำเขตนิวยอร์กใต้ นำโดยนางเลทิเทีย เจมส์ อัยการสูงสุดจากนิวยอร์ก และนายซาเวียร์ เบเซอร์รา อัยการสูงสุดประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ข้อตกลงควบรวมกิจการดังกล่าวมีมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สหรัฐมีจำนวนผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายลดลงเหลือ 3 ราย จากปัจจุบัน 4 ราย ซึ่งรวมถึงเอทีแอนด์ที และเวอไรซอน
สปรินท์ คอร์ป เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในสหรัฐซึ่งเป็นบริษัทลูกของซอฟท์แบงค์ กรุ๊ป คอร์ป ส่วนที-โมบาย ยูเอส อิงค์ เป็นบริษัทลูกของดอยซ์ เทเลคอม เอจี