จับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย โดยคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมากดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ พร้อมกับยุติการปรับลดงบดุล โดยให้เฟดระงับการลดถือครองพันธบัตรในงบดุลมูลค่า 3.85 ล้านล้านดอลลาร์ของเฟด
"ผมอยากจะเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ และผมอยากให้เฟดยุติการคุมเข้มเชิงปริมาณโดยทันที โดยเฟดได้ดำเนินการเร็วเกินไป และแรงเกินไป ทำให้ผมตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาคิดว่าเฟดควรลดดอกเบี้ยให้เร็วกว่านี้ และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดีกว่านี้ หากเฟดไม่ได้เริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558 ซึ่งเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 9 ครั้งจนถึงปัจจุบัน
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวโจมตีรัฐบาลจีนว่าพยายามถ่วงเวลาในการเจรจาการค้าเพื่อรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้นักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้า และยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ โจมตีรัฐบาลจีนที่ไม่ได้ซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐตามที่ได้ให้สัญญาไว้ และจีนตั้งใจถ่วงเวลาการเจรจาการค้า เพื่อรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
"จีนควรซื้อสินค้าเกษตรของเราตั้งแต่ตอนนี้ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าพวกเขาจะทำสิ่งนี้ นี่เป็นปัญหาของจีน พวกเขาไม่ยอมทำตามสัญญา เจ้าหน้าที่ของผมกำลังเจรจากับพวกเขาในขณะนี้ แต่พวกเขามักเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในท้ายที่สุดเพื่อให้พวกเขาได้เปรียบ และพวกเขาคงกำลังรอผลการเลือกตั้งของเรา เพื่อดูว่านายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีหรือไม่ ซึ่งถ้านายไบเดนชนะ จีนก็จะทำข้อตกลงเหมือนอย่างที่เคยทำมาในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยยังคงเอาเปรียบสหรัฐมากขึ้น และรุนแรงขึ้น แต่ถ้าผมชนะเลือกตั้งในปีหน้า จีนก็จะต้องเผชิญกับการทำข้อตกลงที่ยากลำบากกว่าที่พวกเขากำลังเจรจาในขณะนี้ หรืออาจจะไม่สามารถทำข้อตกลงได้ ตอนนี้เรามีไพ่อยู่ในมือแล้ว ซึ่งผู้นำสหรัฐก่อนหน้านี้ไม่เคยมี" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า จีนได้สั่งซื้อถั่วเหลืองจำนวนหลายล้านตันจากสหรัฐนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.
นอกจากนี้ ซินหัวยังระบุว่า บริษัทของจีนกำลังเตรียมสั่งซื้อถั่วเหลืองมากขึ้นจากสหรัฐ รวมทั้งฝ้าย เนื้อสุกร และข้าวฟ่าง
-- คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยสั้นจำนวน 2 ลูกในช่วงเช้านี้ โดยขีปนาวุธเคลื่อนที่ในอากาศด้วยระยะทาง 250 กิโลเมตร (155 ไมล์)
แถลงการณ์ของ JCS ระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวได้ถูกยิงจากแหลมโฮโด ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ พร้อมระบุว่า เกาหลีใต้ยังคงอยู่ในสถานะที่เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ และกำลังติดตามดูว่าเกาหลีเหนือจะยิงจรวดเพิ่มอีกหรือไม่
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% เช่นกันในเดือนพ.ค. เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาอาหาร และพลังงาน
ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. โดยการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อรถยนต์ที่ลดลง แม้ว่าการใช้จ่ายในภาคบริการเพิ่มขึ้น
ด้านรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือนพ.ค. และตัวเลขค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนตัวเลขการออมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.34 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.31 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค. ขยายตัวที่ระดับ 49.7 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 49.4
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และหากดัชนีเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัว
ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. ขยายตัวที่ระดับ 53.7 ซึ่งลดลงจากระดับ 54.2 ในเดือนมิ.ย. และบ่งชี้ได้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากการผลิตในภาคบริการชะลอตัวลง
รายงานระบุว่า การผลิตในภาคบริการปรับตัวลดลง 1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ดีดตัวขึ้น 4.6%
หากเทียบเป็นรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ร่วงลง 1.1% ในเดือนมิ.ย.
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดการเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.และอัตราว่างงานเดือนก.ค.ของเยอรมนี อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของอียู ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.ของสหรัฐจาก ADP และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รวมถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งมีกำหนดการเปิดเผยในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 ส.ค. ตามเวลาไทย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. จีนจะเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากไฉซิน ขณะที่มาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู, อังกฤษ และสหรัฐ ด้านธนาคารกลางอังกฤษเตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย.