World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 2, 2019 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.

"การเจรจาการค้าจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งในระหว่างการเจรจา สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีกมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และนี่จะไม่รวมสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษี 25% ก่อนหน้านี้"

-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวลงตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐและจีนได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อประเด็นการค้าระหว่างประเทศ

-- สถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงยังไม่สิ้นสุดลง โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้มีพนักงานจากบริษัทในแวดวงการเงินเข้าร่วมการชุมนุมแบบแฟลชม็อบ และคาดว่าจะมีการชุมนุมกันในวันนี้ด้วย

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดย BoE มีมติเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75% สวนกระแสคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดว่า BoE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ ท่ามกลางความเสี่ยงที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 1.3% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนพ.ค.ที่ระดับ 1.5% และ 1.6% ตามลำดับ โดยระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และการที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง

-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2% เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

ณ เวลา 00.13 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.957% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.474%

-- ตลาดการเงินเพิ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่ซบเซา

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 61.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. จากเดิมที่คาดว่ามีแนวโน้มเพียง 51% นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.

-- วุฒิสภาสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายเมื่อคืนนี้ ด้วยคะแนนเสียง 67 ต่อ 28 เสียง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการใช้จ่าย 2.75 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้า และจะเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลจนถึงเดือนก.ค.2564

ทั้งนี้ การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ครั้งใหม่

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 214,000 ราย

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 จากระดับ 50.6 ในเดือนมิ.ย.

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 จากระดับ 51.7 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐดิ่งลง 1.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. และดุลการค้าเดือนมิ.ย. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานมิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ