นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ เมื่อประเมินจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า มีโอกาสสูงถึง 70% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.นี้ จากเดิมที่มองว่ามีโอกาส 55%
ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า มีโอกาส 20% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ในการประชุมเดือนก.ย. จากเดิมที่มองว่ามีโอกาสเพียง 10%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.
ข้อความบนทวิตเตอร์ของปธน.ทรัมป์ระบุว่า "เจ้าหน้าที่ของเราเพิ่งกลับมาจากจีน หลังจากที่ได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อทำข้อตกลงการค้าในอนาคต เราคิดว่าเราสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะทำการเจรจาใหม่ ก่อนที่จะมีการลงนาม และเมื่อไม่นานมานี้ จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดว่า เขาจะยุติการจำหน่ายยา Fentanyl ให้แก่สหรัฐ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงล้มตาย"