สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) เปิดเผยว่า บรรดาผู้ค้าปลีกได้แสดงความผิดหวังที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กลยุทธ์ด้านภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลแสวงหาเครื่องมือใหม่ๆในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าให้ดีขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเดวิด เฟรนช์ รองประธานอาวุโสฝ่ายรัฐสัมพันธ์ของ NRF กล่าวว่า กลยุทธ์ด้านภาษีศุลกากรกำลังบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการแสดงความเห็นของนายเฟรนช์มีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้
"การปรับขึ้นภาษีศุลกากรเช่นนี้ มีแต่จะสร้างความเสียหายต่อการจ้างงานในสหรัฐ และยังทำให้ต้นทุนสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของชาวอเมริกันปรับตัวสูงขึ้นด้วย" นายเฟรนช์กล่าว