นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า หากสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน จีนจะดำเนินการเพื่อตอบโต้ และคิดว่าสหรัฐควรจะพิจารณาอย่างระมัดระวังก่อนที่จะปรับเพิ่มภาษี เพราะจะต้องเผชิญกับผลพวงที่ไม่พึงปรารถนาตามมา
นอกจากนี้ โฆษกยังกล่าวด้วยว่า จีนไม่ต้องการที่จะทำสงครามกับสหรัฐ แต่ก็ไม่กลัวที่จะสู้
เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.
"เจ้าหน้าที่ของเราเพิ่งกลับมาจากจีน หลังจากที่ได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อทำข้อตกลงการค้าในอนาคต เราคิดว่าเราสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะทำการเจรจาใหม่ ก่อนที่จะมีการลงนาม และเมื่อไม่นานมานี้ จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดว่า เขาจะยุติการจำหน่ายยา Fentanyl ให้แก่สหรัฐ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงล้มตาย"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า หากแผนการเก็บภาษีของสหรัฐมีผลบังคับใช้เมื่อใด จีนก็จะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศและประชาชน ซึ่งสหรัฐก็ต้องเตรียมเผชิญกับผลพวงที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด
โฆษกกล่าวต่อไปว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐนั้น ยิ่งปลุกปั่นความขัดแย้งด้านการค้า การเก็บภาษีเพิ่มเติมไม่ใช่สิ่งที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศและทั่วโลก อีกทั้งยังจะส่งผลในแง่ของการถดถอยต่อเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน
นางชุนหยิงกล่าวว่า จีนเชื่อมาโดยตลอดว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า แต่ก็ไม่กลัวที่จะสู้ และจะสู้หากเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น จีนหวังว่า สหรัฐจะแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆอย่างทันท่วงที รวมทั้งแก้ปัญหาบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน