สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดพิสัยสั้นจำนวน 2 ลูก ลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการยิงครั้งที่ 3 ในรอบ 1 สัปดาห์
-- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับการปฏิบัติด้วยสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้าที่อาจนำไปใช้ในทางทหารได้ หรือ "white list" โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.เป็นต้นไป
-- บริษัทตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) ประกาศข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเงินแล้วเป็นมูลค่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งหากข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ ก็จะทำให้ LSE ขึ้นแท่นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านข้อมูลและตลาดหุ้นระดับโลก เพื่อแข่งขันกับอาณาจักรข้อมูลการเงินของนายไมเคิล บลูมเบิร์ก
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย. ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป โดยกรรมการรายหนึ่งระบุว่า BOJ ต้องแก้ไขภาวะเงินฝืดโดยเตรียมพร้อมที่จะดำเนินนโยบายรับมือ หากแนวโน้มราคาถูกกดดัน
-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เปิดตัวแอคเคาท์สาธารณะบนวีแชท (Wechat) เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการสื่อสารนโยบายกับประชาชนแล้วในวันนี้
-- นายทาโร อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นได้เตือนถึงผลกระทบของเงินเยนที่แข็งค่า และได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากการพุ่งขึ้นของเยนจะส่งผลกระทบต่อความได้เปรียบในการแข่งขันด้านการส่งออกของญี่ปุ่น
-- ประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ เตือนว่า ญี่ปุ่นจะเผชิญกับผลพวงที่รุนแรงจากการตัดสินใจถอดเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศคู่ค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านการส่งออก
-- นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า หากสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจีน จีนจะดำเนินการเพื่อตอบโต้ และคิดว่าสหรัฐควรจะพิจารณาอย่างระมัดระวังก่อนที่จะปรับเพิ่มภาษี เพราะจะต้องเผชิญกับผลพวงที่ไม่พึงปรารถนาตามมา