วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า บริษัท เรโนลต์ อยู่ในระหว่างการพิจารณาเรื่องการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เพื่อที่จะเรียกเสียงสนับสนุนจากบริษัทพันธมิตรในการที่จะฟื้นแผนการควบรวมกิจการกับบริษัท เฟียต ไครส์เลอร์ ออโตโมบิลส์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่บริษัท เรโนลต์ ได้พยายามที่จะฟื้นการเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการกับกลุ่มบริษัทรถสัญชาติอิตาลีและสหรัฐ เพื่อที่จะลดบทบาทที่มีต่อพันธมิตรสัญชาติญี่ปุ่น
ข้อเสนอควบรวมกิจการถูกปฏิเสธไปเมื่อเดือนมิ.ย. ภายหลังจากที่บริษัทในกลุ่มพันธมิตรจากฝั่งนิสสันได้ยื่นเรื่องขอเลื่อนการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวช่วงการประชุมคณะกรรมการบริหารของเรโนลต์
ทั้งนี้ เรโนลต์ ถือหุ้นในนิสสันอยู่ 43.4% ส่วนบริษัทนิสสันถือหุ้นแบบที่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียงอยู่ 15% แม้ว่า นิสสันจะทำยอดขายรถทั่วโลกได้ถึง 5.65 ล้านคันในปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าเรโนลต์ถึง 1.5 เท่า
ฮิโรโตะ ไซคาวา ซีอีโอของนิสสัน กล่าวในการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนมิ.ย.ว่า ตนเองวางแผนที่จะทบทวนโครงสร้างเงินทุนที่ไม่สมดุลของบริษัทพันธมิตรกับเรโนลต์
ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า หากสัดส่วนการถือหุ้นของเรโนลต์ในนิสสันลดลง บริษัทนิสสันมีแนวโน้มว่า จะมีอำนาจในการควบคุมการดำเนินงานได้มากขึ้น โดยนิสสันตั้งเป้าที่จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 20-25% ส่วนบริษัทเรโนลต์พิจารณาเรื่องถือหุ้นในสัดส่วน 30-35%