นักเศรษฐศาสตร์ออสเตรเลียบางรายได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่า จีนปั่นค่าเงินหยวน
นายเจมส์ ลอเรนซ์สัน รักษาการผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-จีน สังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์เปิดเผยว่า "การที่สหรัฐตราหน้าจีนว่าปั่นค่าเงินนั้นเป็นการพูดถึงเรื่องการเมืองของสหรัฐ มากกว่านโยบายเศรษฐกิจของจีน"
นายลอเรนซ์สันกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า แม้แต่กระทรวงการคลังของสหรัฐเองก็สรุปเมื่อไม่นานมานี้ว่า จีนไม่ได้ปั่นค่าเงิน ซึ่งเป็นการประเมินที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
"น่าขันที่สหรัฐเปิดเผยในขณะนี้ว่า จีนจะถูกประกาศว่าปั่นค่าเงิน นอกเสียจากว่าจีนจะเข้าแทรกแซงเพื่อทำให้หยวนแข็งค่าขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน" เขากล่าว พร้อมทั้งระบุว่า "โชคร้ายที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานทางเศรษฐกิจถูกกีดกันเพื่อความได้เปรียบทางการเมือง"
ปีเตอร์ ดรายสเดล หัวหน้าฝ่ายสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียแสดงความเชื่อมั่นว่า จีนจะไม่ปั่นค่าเงินหยวน
เขากล่าวว่า "ทั้ง IMF และกระทรวงการคลังสหรัฐไม่ได้พิจารณาว่าเงินหยวนมีค่าต่ำเกินไป การปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวลงนั้น สอดคล้องกับแรงกดดันในตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินหยวนจะสอดคล้องกับดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นต้น"
ดรายสเดล เตือนว่า ความขัดแย้งด้านการค้าที่ขยายตัวระหว่างจีนและสหรัฐจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก และกล่าวว่า "หากสงครามการค้ายังคงขยายตัว การลงทุน การผลิต และการจ้างงาน จะได้รับผลกระทบทางลบ และคาดว่าอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก โดยคาดว่า GDP ทั่วโลก จะถูกปรับลงมากถึง 5% ไม่ใช่การปรับลด 1% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้"