ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ โดยให้เหตุผลว่าการลดดอกเบี้ยจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม และจะส่งผลให้บริษัทอเมริกันมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น
"การที่เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก และไม่มีการใช้มาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) จะช่วยให้บริษัทของเรามีชัยชนะเหนือคู่แข่ง" ปธน.ทรัมป์ ระบุบนทวิตเตอร์ โดยอ้างถึงบริษัทสัญชาติอเมริกันอย่างโบอิ้ง และ แคทเธอร์พิลลาร์
ปธน.ทรัมป์ ระบุต่อไปว่า "ในฐานะประธานาธิบดี ใครๆก็คิดว่าผมตื่นเต้นกับการแข็งค่าของดอลลาร์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย!"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น และสกุลเงินหลักอื่นๆ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐก็ได้ออกมากล่าวหาจีนว่ากำลังปั่นค่าเงินด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก เพื่อตอบโต้คำขู่ของปธน.ทรัมป์ในการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ