ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เสนอให้มีการจัด "การประชุมส่วนตัว" กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อหารือถึงแนวทางคลี่คลายสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมเตือนรัฐบาลจีนให้จัดการกับผู้ประท้วง "อย่างมีมนุษยธรรม" หากต้องการบรรลุการเจรจาการค้ากับสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "ผมรู้ว่าท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นคนดีมาก เขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และให้ความเคารพต่อประชาชนของเขาเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งท่านปธน.สียังเป็นผู้ที่มีความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก ผมจึงไม่สงสัยเลย หากเขาจะต้องการแก้ปัญหาในฮ่องกงอย่างรวดเร็วและมีมนุษยธรรม เขาทำมันได้อย่างแน่นอน"
-- กลุ่มผู้ชุมนุมชาวฮ่องกงวางแผนชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มยังคงได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แม้ว่า จะเกิดเหตุปะทะที่รุนแรงขึ้นในระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ายึดสนามบินฮ่องกงก็ตาม
แม้ว่า เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ประท้วงบางกลุ่มได้แจกจ่ายใบปลิว และได้เผยแพร่ข้อความในระบบออนไลน์ เพื่อขอโทษต่อผู้โดยสาร และประชาชนทั่วไปต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นในช่วง 5 วันที่มีการยึดสนามบิน แต่ล่าสุด กลุ่ม Civil Human Rights Front ซึ่งปลุกระดมชาวฮ่องกงให้ออกมาเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ตามท้องถนนก่อนหน้านี้ ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวฮ่องกงรวมตัวกันอย่างสันติและปราศจากความรุนแรงในวันที่ 18 ส.ค.นี้
-- บริษัทจีนหลายรายเริ่มพิจารณาล้มเลิกแผนจดทะเบียนเปิดเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง จนก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพการทำธุรกิจในระยะยาว
ตัวแทนจากธนาคารที่ดูแลบริษัทเหล่านี้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทจีนหนึ่งรายล้มเลิกแผนเตรียมเปิดขายหุ้น IPO ในฮ่องกงแล้ว จากที่ตอนแรกนั้นมีแผนเสนอขายในวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ และมีบริษัทอีก 2 รายที่คาดว่าจะเดินตามรอยนี้ด้วยเช่นกัน
-- คณะผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า โฆษกประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน (OHCHR) ได้ออกมาแสดงความเห็นที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง และขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
คณะผู้แทนจากจีนระบุว่า ถ้อยแถลงของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เป็นการแทรกแซงสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ซึ่งเป็นกิจการภายในของประเทศจีน อีกทั้งยังส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องแก่ผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาอย่างรุนแรง
"ทางการจีนแสดงความไม่พอใจและต่อต้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง" คณะผู้แทนจีนระบุเสริม
-- เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ของฮ่องกง ต่างพากันซื้อพื้นที่หนังสือพิมพ์เพื่อลงโฆษณาขอให้ผู้ประท้วงในฮ่องกงเลิกก่อความไม่สงบ โดยเครือบริษัทเหล่านี้มีทั้งบริษัทซีเค กรุ๊ป ของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่องกงอย่างนายลีกาชิง ตลอดจนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่างนิว เวิลด์ เดเวลอปเมนต์ และเฮ็นเดอร์สัน แลนด์ เดเวลอปเมนต์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ดิ่งลงหนักติดอันดับต้น ๆ ของดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง จนทำให้มูลค่าตลาดหายไปรวมกันหลายพันล้านดอลลาร์
โฆษณาเหล่านี้มีทั้งแบบเต็มหนึ่งหน้าและแบบครึ่งหน้าหนังสือพิมพ์ โดยมีข้อความเช่น "ปกป้องเศรษฐกิจ คุ้มครองความเป็นอยู่" "สร้างสังคมปรองดองขึ้นมาใหม่" และ "คุณหรือครอบครัวจะได้อะไรหากฮ่องกงล่มสลาย"
-- ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ออกมาสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกแทนที่จะทำหน้าที่ผู้รักษาเสถียรภาพให้กับโลกอย่างที่สหรัฐเคยทำมาอย่างยาวนานในอดีตนั้น จะเป็นปัจจัยที่บ่อนทำลายโอกาสในการคว้าชัยศึกเลือกประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์เอง
นโยบายที่สร้างความตื่นตระหนกทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจหลายระลอกนั้นกำลังสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก และยังก่อให้เกิดความตึงเครียดกับระบบการเมืองในระดับสากล ซึ่งซีเอ็นเอ็นมองว่า เป็นการกระทำที่จงใจของทรัมป์ที่จะบ่อนทำลาย
โดยตลาดหุ้นต่างๆที่พากันร่วงลงนั้น ถือเป็นสัญญาณเตือนของการถดถอยทั่วโลกที่ถูกทำให้รุนแรงขึ้นจากความหวั่นวิตกอันเนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
-- ประธานาธิบดีมูน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้ เผยการควบคุมการส่งออกอย่างเข้มงวดโดยญี่ปุ่นนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพการค้าเสรี นอกจากนี้ เกาหลีใต้เองเต็มใจที่จะร่วมมือ หากญี่ปุ่นจัดการเจรจาและแสวงหาความร่วมมือจากทางเกาหลีใต้
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวด้วยว่า เกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ แม้ว่าญี่ปุ่นจะออกมาเคลื่อนไหวด้านการส่งออกก็ตาม
-- ซิสโก้ ซีสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศปลดพนักงานเกือบ 500 คนในซิลิคอนวัลเลย์
ซิสโก้ ซีสเต็มส์ ได้ยื่นรายงานต่อรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งระบุว่า ทางบริษัทได้ปลดพนักงานจำนวน 397 คนที่สำนักงานใหญ่ในเมืองซานโฮเซ และพนักงาน 91 คนในโรงงานเมืองมิลพิทัส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่า พนักงานที่ถูกปลดในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานฝ่ายวิศวกรรม
-- พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษได้ยืนยันที่จะจัดการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน ทันทีที่เชื่อว่า จะสามารถเอาชนะได้ และจะหาทางจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวได้ภายใต้การนำของนายเจเรมี คอร์บิน เพื่อที่จะเลื่อนเวลาการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
นายจอห์นสันได้สัญญาที่จะถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 31 ต.ค. ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีข้อตกลงก็ตาม ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในรัฐสภา เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติคัดค้านการแยกตัวจาก EU โดยปราศจากข้อตกลง
ในจดหมายที่ส่งถึงบรรดาผู้นำพรรคและนักการเมืองอาวุโสอื่นๆ นั้น นายคอร์บินระบุว่า รัฐบาลชั่วคราวของเขา จะเลื่อนกำหนดเวลา Brexit ออกไปหลังวันที่ 31 ต.ค. และจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป